นายกฯเสนอก.ม.ขึ้นเงินเดือนครูเข้าสภา ม.ค. สร้างขวัญกำลังใจ-พัฒนาคุณภาพ

ข่าวการเมือง Sunday January 16, 2011 10:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ครม.ได้เห็นชอบแผนการปฎิรูปประเทศไทย โดยได้ให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ขณะนี้ได้เตรียมจัดตั้งคณะทำงานติดตามขับเคลื่อนแผนการปฎิรูป ซึ่งจะมีการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการทุกสัปดาห์ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนและรวดเร็ว

โดยสิ่งสำคัญของการปฎิรูปประเทศไทย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน เช่น ระบบประกันสังคมต้องครอบคลุมสู่แรงงานนอกระบบได้อย่างทั่วถึง การปรับปรุงสิทธิประโยชน์และความโปร่งใสในการบริการจัดการ การปฎิรูปการศึกษาด้วยการปรับปรุงระบบประเมิน วิทยฐานะครู และเน้นการส่งเสริมให้ขวัญกำลังใจครูสอนดี ดังนั้น ในการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ปลายเดือน ม.ค.นี้ จะผลักดันกฎหมายการขึ้นเงินเดือนครู และคาดว่าจะได้รับความเห็นชอบจากสภา และออกกฎหมายได้ในสมัยประชุมนี้

"ปัญหาเร่งด่วน คือครูรับภาระมากทั้งตัวเลขภาระชั่วโมงการสอน ปัญหาใหญ่คืองานที่แบกรับไม่ใช่การเรียนการสอนเท่านั้น ดังนั้นการผลักดันคุณภาพครู ต้องมีขวัญกำลังใจ มีระบบ ต้องผลักดันปีนี้ต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการต่อเนื่องทั้งเรียนฟรี และปรับปรุงระบบประเมิน วิทยะฐานะ ส่งเสริมกำลังใจครูสอนดี...หวังว่าจะผลักดันก.ม.ออกมาได้ และมีเรื้องการผลิตครู การส่งเสริมอำนวยความสะดวกการเรียนการสอน สื่อการสอน เทคโนโลยี เพื่อให้ครูมีก้าวหน้า มีขวัญกำลังใจ" นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวในโอกาสวันครู ครั้งที่ 55 ว่า การปฏิรูปการศึกษาระยะที่ 2 กำหนดให้ปฎิรูปให้สอดคล้องทั้งระบบ ทั้งการพัฒนาครู สถานศึกษา แหล่งเรียนรู้ การจัดการศึกษา หลักสูตรการผลิตครู ให้ตรงวัตถุประสงค์ เพื่อให้ครูมีจิตวิญญาณ เสียสละ และรัฐบาลให้ความสำคัญกับครู มีการส่งเสริมครู ประกอบกับแก้ปัญหาด้านต่างๆ ของครู หลังจากเมื่อปี 50 มีผลงานวิจัยระดับนานาชาติพบว่าครูไทย โดยเฉพาะด้บมัธยมศึกษามีภาระมาก จากการที่ต้องรับผิดชอบนักเรียนสูงถึง 30 คน/ห้อง ขณะที่มีคุณภาพรับผิดชอบเพียง 15 คน/ห้อง และยังพบว่ามีชั่วโมงการเรียนการสอนที่สูงถึง 925-1,100 ชั่วโมง/ปี

นอกจากนี้คุณภาพครูไทยยังประสบปัญหาหลากหลาย จึงต้องจำเป็นกระตุ้นจิตวิญญาณ การปรับปรุงรายได้ครูที่ไม่เพียงพอ ทำให้ต้องการสอนหารายได้มากขึ้น ดังนั้น ในปี 54 จึงมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพครู ให้เป็นปีพัฒนาคุณภาพครูด้านต่างๆ และจะปรับค่าตอบแทนให้เหมาะกับวิชาชีพ ปรับเปลี่ยนวิทยฐานะ มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาครู เพื่อช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้ภูมิใจในวิชาชีพ และหวังว่าครูจะสนับสนุนงานของรัฐบาล ทั้งการปฎิรูปประเทศไทย และหวังจะปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีแก่เด็กและเยาวชน การอุทิศตนเพื่อส่วนรวม ทั้งหมดเพื่อนำพาครูให้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบและดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ