นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 50 มาตรา 93-98 ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องจำนวน ส.ส. ยังมีเวลาให้สมาชิกรัฐสภาและพรรคร่วมรัฐบาลปรึกษาหารือกันและเชื่อว่าทุกฝ่ายจะเห็นตรงกัน โดยยึดประโยชน์ของประเทศและแนวทางการปฏิรูปการเมืองเป็นสำคัญมากกว่าจะหาประโยชน์ทางการเมือง คาดว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเริ่มหารือกันในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ยอมรับว่า ทุกคนใช้ความคุ้นเคยในระบบการเลือกตั้งแบบส.ส.เขต 400 คน ถือเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ปี 40 ตามหลักสากลจะเปิดให้ประชาชนแสดงเจตจำนง ผ่านการเลือกตั้ง แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งคณะกรรมการศึกษาและปฏิรูปทางการเมือง ที่นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เป็นประธาน ได้ยึดหลักสากล เช่น ประเทศเยอรมัน กำหนดสัดส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อกับส.ส.เขต1 ต่อ 1 หรือ 1 ต่อ 2 แต่สังคมไทยเป็นได้ยาก และที่ผ่านมารัฐธรรมนูญปี 40 ใช้สัดส่วน 1 ต่อ 4 และรัฐธรรมนูญปี 50 ใช้สัดส่วน 1 ต่อ 5 จึงเป็นที่มาของจุดสมดุลที่จะใช้สัดส่วนให้เหมาะสมในประเทศไทย คือ 1 ต่อ 3 หรือ 125 ต่อ 375 เสียง
"ท้ายที่สุดเหตุผลจะเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจของสมาชิกในเรื่องดังกล่าว และจะสามารถก้าวข้ามความคุ้นเคยกับแนวทางการแบ่งเขตการเลือกตั้งแบบเดิมไปได้ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ ปี 50 ตามสัดส่วน ส.ส.ระบบเขต 375 เสียงต่อ ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ 125 เสียงตามที่กรรมาธิการร่วมกันของรัฐสภาพิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว" นพ.บุรณัชย์ กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า ทางพรรคไม่เคยข่มขู่หรือเสนองบประมาณเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อขอให้สนับสนุนสูตรการแบ่งเขตเลือกตั้ง และขอเรียกร้องพรรคเพื่อไทย ให้แสดงบทบาททางการเมืองอย่างสร้างสรรค์มากกว่าสร้างแตกแยกระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล