นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) เร่งเจรจากับแกนนำเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติที่มาชุมนุมอยู่บนนถนนพิษณุโลก หน้าทำเนียบรัฐบาลในขณะนี้ เพื่อให้ช่วยเปิดการจราจรในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากการปิดถนนทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ส่วนความคืบหน้าการเจรจาช่วยเหลือ 7 คนไทยในกัมพูชานั้น เชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้จะเห็นความคืบหน้า โดยภาพรวมมองว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้น ซึ่งเรื่องนี้นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จะทำหน้าที่ชี้แจงและทำความเข้าใจในระหว่างเวทีการประชุมต่างๆ ที่ได้มีโอกาสพบปะหารือกับผู้นำกัมพูชา
นายสุเทพ ย้ำว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่กลุ่มเครือข่ายฯจะเดินทางไปยื่นถวายฎีกาในวันพรุ่งนี้(18 ม.ค.)จากเหตุที่ว่ารัฐบาลไม่มีความชอบธรรมที่จะปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้มีการละเมิดสถาบัน ไม่ปกป้องและรักษาบูรณภาพแห่งแผ่นดินว่า โดยนายสุเทพเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องไม่บังควรที่จะไปรบกวนให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท
สำหรับการผู้ชุมนุมของเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติในขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของกองทัพธรรมสันติอโศก โดยในช่วงเช้านี้ผู้ชุมนุมได้กระจายกันกางเต็นท์พักผ่อนบนทางเท้าสองฟากถนน คือ ด้านข้างทำเนียบรัฐบาล และด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(กพ.) มีการนำเสาไม้ไผ่มาตั้งเป็นแนวกลางถนนพิษณุโลกเพื่อกางผ้าพลาสติกสีดำชั่วคราวให้ผู้ชุมนุมได้อาศัยบังแดดด้วย
ขณะเดียวกันผู้ชุมนุมได้สลับกันปราศรัยโจมตีรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีต่อกรณีการให้ความช่วยเหลือ 7 คนไทยที่ถูกกัมพูชาจับกุมเป็นไปด้วยความล่าช้า
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้เข้าเจรจากับแกนนำกลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติแล้ว โดยขอให้เปิดการจราจร 2 ช่องทาง ด้านประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมาทำให้การจราจรติดขัดมาก เพราะต้องปิดถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกพาณิชย์พระนครจนถึงแยกมิสกวัน
แต่การเจรจาดังกล่าวไม่เป็นผล เนื่องจากแกนนำฯ ไม่ยอมเปิดช่องทางจราจร โดยระบุว่าใน 1-2 วันนี้จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาร่วมสมทบอีกจำนวนมาก และจะเปิดการจราจรให้ตามปกติในวันที่ 19 ม.ค.