นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวถึงการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่วันนี้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย มีความเห็นแตกต่างกันถือเป็นความสวยงามตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ความแตกแยก โดยพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ประชุมเพื่อกำหนดหัวข้อการอภิปราย การวางตัวบุคคล และกำหนดวันยื่นญัตติฯ แต่เรามีความพร้อมด้านข้อมูลเป็นอย่างมาก
"การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล มีเป้าหมายคือตรวจสอบการทุจริต คอรัปชั่นของรัฐบาลเพื่อเปลี่ยนแปลงความรู้สึกประชาชนเพื่อให้มีผลในการเลือกตั้งครั้งหน้า... วันนี้เราสามัคคีเต็ม 100 ยังไม่รู้ จะชนะหรือไม่ ชนะไม่ถึงครึ่งเท่ากับแพ้ ดังนั้นต้องชนะเกินกึ่งเยอะๆ เพราะไม่รู้ว่าคนที่จะมาเป็นนายกฯจะต้องเจออะไรอีกหรือไม่" นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร เชื่อว่า หากนายมิ่งขวัญ และร.ต.อ.เฉลิม ได้คุยกันเรื่องนี้ก็คงไม่มีอะไร และคิดว่านายมิ่งขวัญคงจะไปร่วมงานแต่งานลูกชายของ ร.ต.อ.เฉลิม ในเย็นวันนี้แน่นอน แต่สิ่งที่น่าห่วงคือบรรดากองเชียร์ ต้องระมัดระวั ในการรักษาน้ำใจคนในพรรคเดียวกัน ทุกคนอยู่ในภาวะกดดันเหมือนกันหมด
"เราเลือกตั้งได้ที่หนึ่งอยู่แล้ว...เราชนะประชาธิปัตย์ได้ไม่ยาก แต่ต้องไม่แตกแยก เราจึงต้องแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง ส่วนข้อเสนอของ ร.ต.อ.เฉลิม ทั้งเรื่องแคมเปญการเลือกตั้ง การปรับเปลี่ยนพื้นที่เลือกตั้ง หากนำไปสู่ชัยชนะ ส่วนข้อเสนอทั้ง 3 ข้อ ไม่ถือว่าเป็นความแตกแยก แต่เป็นความแตกต่างที่เราต้องหาจุดสมดุลให้ได้" นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม และนายมิ่งขวัญ และทุกคน ต้องมีบทบาทรับผิดชอบสำคัญร่วมกัน และนายมิ่งขวัญก็ยืนยันว่าอภิปรายครั้งนี้ไม่หน่อมแน้มหรือประณีประนอมแน่นอน ภาพการตรวจสอบแบบบู๊ก็ต้องมีอย่างแน่นอน การตรวจสอบทุจริตคอรัปชั่นก็ต้องว่ากันอย่างเต็มที่
นอกจากนี้พรรคเพื่อไทย กับพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สามารถแยกออกกันได้ สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำ จะต้องถูกนำมาใช้ในการหาเสียง เพราะประชาชนต้องการอย่างนั้น
เมื่อถามว่านายมิ่งขวัญจะเชิญร.ต.อ.เฉลิม ไปร่วมอภิปรายหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม ถึงอย่างไรต้องร่วมอภิปรายฯอยู่แล้ว เพียงแต่วันนี้พรรคยังไม่ได้ประชุมกำหนดวันยื่นญัตติ การเสนอบุคคลแนบท้าย แต่นายมิ่งขวัญก็ต้องเตรียมความพร้อมเช่นกัน เพราะอภิปรายครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของสภาฯชุดนี้ ถึงแม้ ร.ต.อ.เฉลิม จะประกาศไม่ร่วมก็ต้องคุยกัน เช่นเดียวกับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ที่เราก็ต้องร้องขอให้ลงเลือกตั้งเหมือนกัน
"เราไม่เหมือนพรรคประชาธิปัตย์ เขาเส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว เราแค่ข้าวเปล่าผัดน้ำปลา เป้าหมายเราต้องชนะการเลือกตั้งได้ที่หนึ่งเกินครึ่ง แต่วันนี้ทุกฝ่ายกดดัน จึงออกมาอย่างนี้ เชื่อว่าหากได้คุยกันทุกอย่างก็คงจบ"นายจตุพร กล่าว