นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ระบุจะดูแลการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยให้อยู่ในความเรียบร้อย โดยไม่ยอมให้มีการบุกรุกเข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาลเมื่อที่ผ่านมา และในช่วงที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปราชการในต่างประเทศในช่วงปลายเดือน ม.ค.นี้จะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเหมือนในอดีต
"คงจะไม่ยอมให้เข้าทำเนียบรัฐบาล ถ้าเข้ามาในทำเนียบฯ ก็ถือเป็นการบุกรุก และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ช่วงที่นายกฯ ไม่อยู่ ผมก็จะทำหน้าที่รักษาการ ซึ่งผมรักษาการมาหลายครั้งแล้วก็จะปฏิบัติหน้าที่อย่างที่เคยทำมา" นายสุเทพ กล่าว
กลุ่มพันธมิตรฯ เคยบุกยึดทำเนียบรัฐบาลในสมัยรัฐบาลที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปต่างประเทศ และขณะนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ได้กลับมาชุมนุมข้างทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แก้ปัญหาเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา โดยแกนนำฯ ไม่รับปากว่าจะมีการบุกยึดทำเนียบฯ อีกหรือไม่
นายสุเทพ ยอมรับว่า เป็นเรื่องหนักใจที่กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมปิดล้อมทำเนียบฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อปัญหาการจราจร และคงจะไม่ไปห้ามชุมนุม แต่เสียดายที่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน ขณะเดียวกันรัฐบาลคงไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ เพราะการยกเลิก MOU ปี 43 จะส่งผลให้เกิดปัญหาตามแนวชายแดนตามมา ส่วนการผลักดันชาวกัมพูชาออกจากบริเวณชายแดนเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก และการถอนตัวจากภาคีสนธิสัญญามรดกโลกนั้นพร้อมที่จะดำเนินการทันทีหากเห็นว่าไทยไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องปราสาทพระวิหาร
นายสุเทพ กล่าวว่า สำหรับการดูแลกลุ่มชุมนุมนั้นยังคงใช้กฎหมายตามปกติ ไม่มีความจำเป็นต้องนำกฎหมายพิเศษออกมาบังคับใช้
ส่วนกรณีที่มีข่าวทหารใช้กระสุนจริงฝึกรบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น เพราะหากมีการดำเนินการใดๆ ที่เพิ่มความตึงเครียดจะไม่ส่งผลดีต่อความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเชื่อว่ายังสามารถใช้แนวทางการเจรจาได้