นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การโหวตแก้รัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 นั้นรัฐบาลจำเป็นต้องได้เสียงโหวตถึง 313 เสียง ซึ่งจะต้องหาเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 15 เสียง จึงมีการล็อบบี้กลุ่มส.ว.สรรหาที่จะหมดวาระในวันที่ 18 ก.พ. ซึ่งมีส.ว.บางคนออกมาให้ข่าวว่ามีการเสนอตัวเลขให้ถึง 8 หลัก
"ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากที่มีการใช้วิชามารด้วยลักษณะนี้"นายพร้อมพงศ์ กล่าว
สำหรับการตั้งงบกลางปี 2554 ถึง 1.2 แสนล้านบาท และมีงบซ่อนเร้นถึง 3.6 หมื่นล้านบาทนั้น รัฐบาลต้องชี้แจงด้วยว่ามีการเกลี่ยงบกลางปีในส่วนนี้อย่างไร พรรคร่วมรัฐบาลจึงยอมเปลี่ยนจุดยืนจากสูตร 400+100 มาสนับสนุนร่าง 375+125 ของรัฐบาลได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
"การกระทำลักษณะนี้ถือเป็นการย่ำยีรัฐธรรมนูญ วันนี้ประชาชนในภาคเหนือและภาคอีสานก็เริ่มออกมาต่อต้านแล้วว่าการลด ส.ส.เขตเลือกตั้งนั้นทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ พรรคจึงขอเรียกร้องให้ส.ว.ทั้งที่มาจากการสรรหาและจากการเลือกตั้งทบทวนบทบาทของตัวเอง ลองคิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยลดส.ส.เขตเลือกตั้งลงนั้นเป็น ประโยชน์ต่อประชาชนจริงหรือไม่"โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว