ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เรียกร้องให้รัฐบาลอียิปต์ระงับเหตุการณ์รุนแรงภายในประเทศด้วยสันติวิธี หลังจากประชาชนนับแสนคนออกมาชุมนุมประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค จนนำไปสู่การสลายการชุมนุมด้วยวิธีรุนแรงและทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
"คณะทำงานของผมกำลังจับตาดูสถานการณ์ในอียิปต์อย่างใกล้ชิด และผมตระหนักว่าเราสามารถเรียนรู้จากทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาลอียิปต์ทุ่มเทความพยายามในการระงับเหตุการณ์รุนแรงด้วยสันติวิธี และขอวิงวอนให้กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงบนถนนหลายสายในอียิปต์เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างสงบ เพราะการใช้ความรุนแรงและการทำลายล้างจะไม่นำไปสู่การปฏิรูปตามที่พวกท่านคาดหวังได้" โอบามากล่าว
นอกจากนี้ โอบามากล่าวว่า เขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดีมูบารัคแล้วเมื่อวานนี้ พร้อมกับเรียกร้องให้มูบารัคใช้นโยบายที่จริงจังในการปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผู้ประท้วงนับแสนคนในอียิปต์ได้พากันออกมารวมตัวกันตามท้องถนนสายต่างๆในกรุงไคไรและเมืองใหญ่ทั่วประเทศ รวมถึงเมืองสุเอซ อัสวาน มันซูรา และอเล็กซานเดรีย เพื่อขับไล่ประธานาธิบดีมูบารัค ซึ่งทำให้รัฐบาลต้องออกคำสั่งให้กองกำลังทหารเข้าควบคุมสถานการณ์และสลายการชุมนุมโดยใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และปืนใหญ่ฉีดน้ำ จนเป็นเหตุให้เกิดการปะทะกันรุนแรงและทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
มูฮัมหมัด เอลบาราดี เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพและผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานปรมานูสากล (IAEA) ซึ่งเป็นชาวอียิปต์ ได้เข้าร่วมในเหตุการณ์ประท้วงครั้งนี้ด้วย โดยเอลบาราดีกล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่การเมืองในอียิปต์จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง หากรัฐบาลใช้กำลังปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง ก็จะยิ่งทำให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น และสิ่งที่เขาต้องการเห็นในเวลานี้คือการปฏิรูปทางการเมืองแล้ว พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลยอมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
เหตุการณ์จลาจลรุนแรงในอียิปต์ได้สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลก และส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ และยังฉุดดัชนี MSCI World Market Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นทั่วโลก ดิ่งลง 1.4%
นอกจากนี้ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศทบทวนแนวโน้มความน่าเชื่อถือของอียิปต์ โดยได้ปรับแนวโน้มลงสู่ระดับ "เป็นลบ"