นายพนิช วิกิตเศรษฐ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ไปเจรจากับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ชุมนุมยืดเยื้ออยู่บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล ว่า คงไม่ได้เจรจาเพื่อให้กลุ่มพันธมิตรยุติการชุมนุม แต่เป็นการพูดคุยให้เข้าใจถึงจุดยืนของรัฐบาล และนำจุดยืนพร้อมข้อมูลของกลุ่มพันธมิตรมาชี้แจงกับรัฐบาล เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายเข้าใจข้อมูลตรงกันมากขึ้น แม้ตนเองจะไม่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ แนวร่วมพันธมิตรฯเป็นคนในพื้นที่บึงกุ่ม และไปเผชิญชะตากรรมร่วมกันในกัมพูชา
นอกจากนี้ ตนเองได้เข้านมัสการสมณะโพธิรักษ์ เพื่ออธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างที่อยู่ในกัมพูชา ขณะนี้ผู้ใหญ่ของ 3 กลุ่มย่อยในพันธมิตรฯมีแนวโน้มเข้าใจตรงกันมากขึ้น โดยเฉพาะการยอมรับในแผนที่ 1 ต่อ 50,000 ของรัฐบาล โดยไม่ยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 แต่บางคนอาจมีวิธีการแสดงออกที่ต่างกัน คงเหลือเพียงกลุ่มย่อยๆอีก 1 กลุ่มที่ยังมีความเห็นแตกต่าง ดังนั้นจึงต้องพยายามพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันต่อไปทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ
นายพนิช กล่าวด้วยว่า หากการชุมนุมของพันธมิตรไม่สร้างปัญหาความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ก็สามารถใช้สิทธิชุมนุมต่อไปได้ แต่ไม่ควรชุมนุมด้วยอารมณ์ โดยเฉพาะการปราศรัยกล่าวหากระบวนการยุติธรรมของประเทศใด เพราะอาจส่งผลต่อคนไทยที่ถูกดำเนินคดี ยืนยันว่ารัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ อย่างเต็มที่
สิ่งที่อยากฝากคืออย่าลืมชะตากรรมของอีก 2 คนไทยที่ต้องช่วยเหลือให้กลับมาโดยเร็วที่สุด ดังนั้นการขึ้นเวทีปราศรัยจึงอยากขอร้องไม่ให้พูดเรื่องคดี และไม่อยากพูดในสิ่งที่จะกระทบความสัมพันธ์ สถานการณ์ขณะนี้จำเป็นต้องใช้การพูดคุยเจรจา