กระทรวงสาธารณสุขอียิปต์รายงานในวันนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 51 คน และบาดเจ็บ 1,100 คน จากเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นภายในประเทศในช่วง 4 วันที่ผ่านมา หลังจากประชาชนจำนวนมากได้ออกมาชุนนุมประท้วงกดดันให้ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ลาออกจากตำแหน่ง จนเป็นเหตุให้รัฐบาลต้องสั่งให้กองกำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมด้วยวิธีรุนแรง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
รายงานระบุว่า แม้คณะรัฐมนตรีอียิปต์ได้ประกาศลาออกแล้ว แต่เหตุการณ์ประท้วงรุนแรงในกรุงไคโรและเมืองอีกหลายแห่งยังคงดำเนินมาจนถึงวันที่ 5 ในวันนี้ เนื่องจากประชาชนต้องการให้นายมูบารัคลงจากตำแหน่ง โดยประชาชนจำนวนมากเริ่มกลับมารวมตัวกันใหม่ที่จตุรัสตอห์รีในวันนี้ หลังจากที่เคยใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นจุดชุมนุมอย่างสันติเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จนกระทั่งการประท้วงบานปลายกลายเป็นการจลาจลที่รุนแรงในช่วงหลายวันหลังจากนั้น
กองกำลังทหารอียิปต์ได้เข้าประจำการพร้อมอาวุธและรถถังที่บริเวณรอบๆอาคารที่ทำการหลายแห่งของรัฐบาล นอกจากนี้ กองกำลังทหารยังได้ปิดปิรามิดหลายแห่งซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญบริเวณรอบๆกรุงไคโร ไม่ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การที่กองกำลังทหารและตำรวจอียิปต์เข้าสลายการชุมนุมด้วยวิธีรุนแรงได้สร้างความวิตกกังวลแก่คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เป็นอย่างมาก โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐเตือนว่าอาจจะลดงบประมาณช่วยเหลือด้านต่างประเทศแก่อียิปต์ 1.5 พันล้านดอลลาร์ หากอียิปต์ยังคงใช้กำลังทหารสลายการชุมนุม