หลายประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงสหรัฐ จีน ฝรั่งเศส เดนมาร์ก สวีเดน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้ออกแถลงการณ์เตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศอียิปต์ และวางแผนที่จะส่งเครื่องบินไปยังอียิปต์เพื่ออพยพประชาชนออกจากพื้นที่ หลังจากเหตุการณ์ประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ได้ทวีความรุนแรงจนกลายเป็นการจลาจลที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 150 คนในขณะนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐได้ออกแถลงการณ์เตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังอียิปต์ เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง พร้อมกับสั่งการให้เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐในอียิปต์ให้ความช่วยเหลือและให้คำแนะนำแก่ชาวอเมริกัน
"สถานทูตสหรัฐในกรุงไคโรได้แจ้งให้กับประชาชนชาวอเมริกันที่ต้องการเดินทางออกจากอียิปต์ว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกำลังดำเนินการจัดเที่ยวบินให้ชาวอเมริกันเดินทางไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยในยุโรปเป็นการชั่วคราว" แถลงการณ์ของสถานทูตสหรัฐระบุ
ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวซินหัวเปิดเผยว่า ประชาชนหลายพันคนยังคงติดค้างอยู่ที่สนามบินนานาชาติกรุงไคโรในช่วงเช้าวันอาทิตย์ เนื่องจากเที่ยวบินดีเลย์ และบางเที่ยวบินถูกยกเลิก ส่วนที่ฉนวนกาซ่าซึ่งปกครองโดยกลุ่มฮามาสนั้น ได้มีการปิดทางข้ามชายแดนไปยังเมืองราฟาห์แล้ว ขณะที่กลุ่มทหารที่ประจำการอยู่ที่ชายแดนอียิปต์ได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ หลังจากสำนักงานใหญ่ด้านความมั่นคงที่บริเวณชายแดนถูกโจมตีโดยกลุ่มผู้ประท้วง
นอกจากนี้ สถานีตำรวจหลายแห่งในกรุงไคโรได้ถูกโจมตีในช่วงเวลาหลายวันที่เกิดความไม่สงบ ซึ่งทำให้ผู้บัญชาการกองทัพอียิปต์ต้องสั่งให้มีการตรึงกำลังที่สนามบิน หลังจากมีรายงานว่าผู้ประท้วงได้ขโมยอาวุธไปจากสถานีตำรวจ ซึ่งการเคลื่อนพลของทหารส่งผลให้การจราจรติดขัดบนถนนสายต่างๆที่จะมุ่งหน้าไปยังสนามบิน
ทั้งนี้ มิคสัญญีและภาวะไร้ขื่อแปทางกฎหมายในอียิปต์ได้สร้างความวิตกกังวลไปทั่วโลก แม้ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ได้ขยายช่วงเวลาเคอร์ฟิวในกรุงไคโร เมืองอเล็กซานเดรีย และเมืองสุเอซแล้วก็ตาม