นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ระบุถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ไม่ได้มีความตึงเครียด และไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ความรู้สึกตึงเครียดมาจากการปลุกเร้าจากการชุมนุมในประเทศ ซึ่งการกระทำในขณะนี้เป็นการกระทำในลักษณะจะให้มีสงคราม แต่ยืนยันว่ารัฐบาลต้องการอยู่ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านโดยสันติ
"อย่ายุยงให้มีสงคราม ผมอยากเอาคนที่ยุยง ที่อาสา ไปเป็นกองหน้าถ้ามีสงครามจริง และจะเอาไหม" นายสุเทพ ระบุ
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ขณะนี้เป็นเรื่องปกติไม่ว่าจะเป็นการประท้วงที่ไทยมีต่อกัมพูชา หรือไทยมีต่อพม่า มีปัญหากระทบกระทั่งตามชายแดนโดยตลอดแต่ก็ไม่เคยมีอะไรรุนแรง ยังอยู่ในวิสัยที่คิดว่ายังเจรจากันได้ ยังไม่ใช่เรื่องที่ถึงขั้นรุกล้ำอธิปไตย แต่ต้องยอมรับว่ามีความพยายามที่ต้องการปลุกเร้าให้เกิดปัญหา
นอกจากนี้ ยังไม่ได้รับรายงานว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คนไทยที่อยู่บริเวณชายแดนได้รับความเดือดร้อน
ส่วนปัญหาการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็มีงานสำคัญปกติที่ต้องทำ เช่น งานปราบปรามปัญหายาเสพติดที่กำลังทำได้ดีอยู่ แต่ก็ต้องชะงักลงไป เพราะเสียเวลาต้องจัดกำลังส่วนหนึ่งมาดูแลรักษาความปลอดภัยของการชุมนุม ซึ่งตนคิดว่าจะรอดูสถานการณ์ หากไม่มีอะไรเหลือบ่ากว่าแรงคงไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการอะไรเข้าไป ยืนยันว่ายังไม่มีการนำกฎหมายพิเศษมาใช้ เพราะไม่อยากเห็นบ้านเมืองวุ่นวาย จะพยายามบริหารทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ส่วนกรณีที่นายโรเบิร์ต อัมเตอร์สดัม ทนายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมพวกต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ ในข้อหาก่อคดีอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จากเหตุการณ์ความรุนแรงในกรุงเทพฯ เมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 53 นั้น น่าจะเป็นการหลอกต้มเงินจากมหาเศรษฐี เพราะนายโรเบิร์ต พยายามจะบิดเบือนข้อมูล เป็นการกระทำที่มุ่งหวังเงินค่าจ้างมากกว่า เพราะไม่ใช่เป็นคนที่รักความถูกต้องหรือความจริง เป็นคนที่รักค่าจ้างมากกว่า ข้อมูลก็สร้างขึ้นเพื่อบิดเบือนและที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศไม่ให้บุคคลนี้เข้าประเทศอยู่แล้ว
สำหรับความคืบหน้าคดีในส่วนการสอบสวนนั้น กำลังเร่งดำเนินการ หากเรื่องใดที่เป็นข้อเสนอของนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และรัฐบาลทำได้ก็จะเร่งดำเนินการ แต่หากเรื่องใดเป็นเรื่องที่เกินกำลังรัฐบาลก็จะชี้แจงให้นายคณิต เข้าใจ