นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นกรณีศาลกัมพูชาตัดสินลงโทษสองคนไทยที่ถูกทหารกัมพูชาจับกุมตัวไปบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา แต่ยอมรับเป็นการลงโทษที่รุนแรง
"ในฐานะคนไทยถือว่าเป็นคำตัดสินที่รุนแรง แต่ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการตัดสินของศาล และถือว่าคดียังไม่ยุติ สามารถอุทธรณ์ได้ ทุกฝ่ายควรรับฟังการตัดสินของศาลและไม่ทำให้เกิดชนวนความบาดหมางของทั้งสองประเทศ" นายสุเทพ กล่าว
ช่วงเย็นวานนี้ ศาลกัมพูชาได้พิพากษาจำคุกนายวีระ สมความคิด เป็นเวลา 8 ปี พร้อมปรับเงินจำนวน 1.8 ล้านเรียล และจำคุก น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ เป็นเวลา 6 ปี และปรับเงินจำนวน 1.2 ล้านเรียล โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากศาลเห็นว่าคนไทยทั้งสองกระทำผิดตามข้อกล่าวหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย, เข้าไปในพื้นทหารโดยไม่ได้รับอนุญาต และจารกรรมข้อมูลที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง
ก่อนหน้านี้ ศาลกัมพูชาได้พิพากษาจำคุกคนไทย 5 คนที่เดินทางร่วมคณะไปสำรวจพื้นที่ทับซ้อน บริเวณ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แล้วถูกทหารกัมพูชาจับกุมตัวไปดำเนินคดีเป็นเวลา 9 เดือน และปรับเงินคนละ 1 ล้านเรียล แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา ซึ่งคนไทยทั้ง 5 คน ได้เดินทางกลับมายังประเทศไทยแล้ว
นายสุเทพ กล่าวว่า แนวทางการขอพระราชทานอภัยโทษขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายวีระ และ น.ส.ราตรี เพราะต้องรอให้คดีถึงที่สุด ขณะเดียวกันรัฐบาลจะเร่งหาทางเจรจาต่อไป และขณะนี้ถือว่าความสัมพันธ์ของสองประเทศยังอยู่ในระดับที่แก้ไขได้ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด รวมถึงกรณีที่รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ไม่ปลดธงชาติและรื้อถอนวัดแก้วสิกขาคีรีศวร
ส่วนการเคลื่อนไหวชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสุเทพ ยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่สลายการชุมนุม แต่จะดูแลไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมสร้างปัญหาโดยรวมให้กับประชาชน รวมทั้งไม่ยอมให้มีการเผาสถานที่ราชการทั้งของไทยและกัมพูชา