นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า ได้หารือกับ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)แล้ว ถึงการเพิ่มมาตรการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้มือที่ 3 เข้ามาปั่นป่วนหรือก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในช่วงนี้ รวมถึงป้องกันไม่ให้การชุมนุมต้องขยายวงกว้างออกไปอีก
รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะไม่มีการสลายการชุมนุมอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความพยายามในการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อขอคืนพื้นที่การจราจรบนถนนราชดำเนินนอกต่อไป
อนึ่ง กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ขีดเส้นตายให้รัฐบาล 3 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันพรุ่งนี้(5 ก.พ.)ในการนำตัว 2 คนไทยที่ถูกศาลกัมพูชาตัดสินจำคุก คือ นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ กลับมาประเทศไทยโดยไร้มลทิน พร้อมยื่นเงื่อนไขว่าถ้ารัฐบาลยังเพิกเฉยไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง จะมีการขอฉันทามติจากผู้ชุมนุมในวันที่ 5 ก.พ.นี้ในการยกระดับการชุมนุมเพื่อกดดันรัฐบาลต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1(ผบก.น.1) กล่าวว่า ขณะนี้ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้วจำนวน 17 กองร้อย โดยจะมีการตั้งด่านตรวจค้นอย่างเข้มงวด ซึ่งจากการเจรจากับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ แล้วได้รับคำยืนยันว่ายังไม่มีการเคลื่อนขบวนในวันพรุ่งนี้(5 ก.พ.)
ส่วนการนัดชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 13 ก.พ.ที่ศาลอาญานั้น พล.ต.ต.วิชัย คาดว่า วันที่ 12 ก.พ.จะนัดเจรจากับแกนนำฯ เพื่อซักซ้อมและทำความเข้าใจในการชุมนุม
สำหรับการฝึกซ้อมปราบจลาจลของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีอย่างต่อเนื่องนั้นเพื่อเพิ่มความพร้อมให้กับเจ้าหน้าที่เท่านั้น ไม่ใช่การยั่วยุกลุ่มผู้ชุมนุม