นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หันหน้ามาพูดคุยกับรัฐบาลมากกว่าที่จะมุ่งโจมตี โดยยังหวังว่าจะสามารถพูดจาทำความเข้าใจกันได้ และเชื่อว่าหากรัฐบาลและกลุ่มพันธมิตรฯ ช่วยกัน จะทำให้การแก้ไขปัญหาสถานการณ์และข้อพิพาทต่างๆ กับกัมพูชาเป็นไปง่ายขึ้น
อย่างไรก็ดี ในระหว่างที่กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเรียกร้องรัฐบาลเรื่องการแก้ไขปัญหากัมพูชานั้น พบว่ากัมพูชาได้ถือโอกาสส่งจดหมายไปยังคณะกรรมการมรดกโลก เพื่อกีดกัดไม่ให้ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก โดยยกเหตุผลว่ามีกลุ่มคนไทยต้องการให้รัฐบาลถอนตัวออกจากการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลก
"อยากให้มองในทางกลับกัน ถ้าเราผนึกกำลังกันจริงๆ การดำเนินการใดๆ กับทางกัมพูชาจะง่าย ผมยกตัวอย่างตอนนี้กัมพูชาถือโอกาสส่งข้อความไปยังคณะกรรมการมรดกโลกว่า ประเทศไทยไม่ควรได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในปีหน้า โดยอ้างว่าคนไทยต้องการให้เราถอนตัวจากคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งแนวทางในการถอนตัวทันทีไม่ได้เป็นคุณกับการปกป้องผลประโยชน์เราเลย" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลมีความจำเป็นต้องทำหน้าที่ในคณะกรรมการมรดกโลกให้ถึงที่สุดก่อน ไม่ควรจะยอมแพ้หรือถอนตัวโดยทันทีในขณะนี้
ส่วนความคืบหน้าในการทำความเข้าใจกับกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น ได้มีการประสานกันอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้แนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ไม่ขอพูดในรายละเอียด ส่วนการที่พรุ่งนี้(5 ก.พ.) กลุ่มพันธมิตรฯ จะขอฉันทมติจากผู้ชุมนุมในการยกระดับการชุมนุมนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ทุกคนคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งหากการกระทำใดทำให้เหตุการณ์บานปลายก็จะไม่ส่งผลดีต่อประเทศ และไม่เป็นผลดีต่อการรักษาผลประโยชน์ของไทยด้วย
พร้อมกันนี้ ยืนยันว่าพันธมิตรฯ ไม่สามารถบุกรุกเข้ามาในทำเนียบรัฐบาลได้ ส่วนการที่พันธมิตรฯ ปิดการจราจรนั้น ได้ประสานกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และตำรวจนครบาลให้เร่งทำความเข้าใจอย่างต่อเนื่องกับแกนนำฯ เพื่อขอคืนพื้นที่การจราจรบนถนนราชดำเนิน