แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปรับแผนยกเลิกเคลื่อนขบวนในกรุงเทพฯ 11 ก.พ.แต่จะส่งขบวนรถนำสิ่งของไปมอบให้ทหารและประชาชนใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชานแดนไทย-กัมพูชา
รายงานข่าว เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดิน มีมติไม่เคลื่อนขบวนตามที่ได้เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนไปหลังรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ครอบคลุมพื้นที่ 7 เขตในกรุงเทพฯ
"หลังจากที่ได้หารือกันในคณะกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดินแล้ว เราเห็นว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปแต่ไม่ได้เป็นการหลีกเลี่ยง พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แต่หลังวันที่ 11 กุมภาพันธ์ เราอาจจะไปที่ไหนในประเทศไทยก็ได้" พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า วันที่ 11 ก.พ.จะไม่เคลื่อนขบวน แต่จะไปรวมตัวปฏิญาณตนที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ต่อพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ในการร่วมเป็นอาสาสมัครในการพิทักษ์รักษาดินแดน ตามพระปรีชาญาณที่พระองค์ทรงทำให้ประเทศไทยเป็นเอกราชมาถึงทุกวันนี้ รวมทั้งทำทุกวิถีทางทวงคืนแผ่นดินที่กัมพูชายึดครองกลับคืนมา และป้องกันการถูกรุกรานอย่างยั่งยืนไม่ให้ถูกยึดครองไปอีก
จากนั้นจะเป็นปล่อยขบวนรถนำสิ่งของไปมอบให้ทหารและประชาชนใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และเมื่อเสร็จสิ้นพิธีก็จะกลับมายังพื้นที่การชุมนุมเช่นเดิม โดยไม่มีการเดินทางไปที่หน้ารัฐสภาอย่างที่รัฐบาลกังวลกัน และยืนยันที่จะไม่เปิดการจราจรในบริเวณสถานที่ชุมนุมบนถนนราชดำเนินนอกตามคำร้องขอของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
"เราได้ตัดสินใจแล้วถูกจับเสียอิสรภาพดีกว่าเสียดินแดน ไม่ว่าจะเอากฎหมายใดหรือคำสั่งใดมาให้เราออกไปจากที่นี่ เราออกไม่ได้หรอกครับ เราต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะปกป้องดินแดนได้...ผู้ที่รถติดบ้างก็เสียเวลาเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ก็ยังดีกว่าเสียดินแดนตั้งเยอะแยะ และคนที่รถติดก็ไม่ได้ทุกข์ยากเหมือนพวกเราที่มากินนอนอยู่กลางถนน"พลตรีจำลอง กล่าว
ทั้งนี้ โดยผู้สนใจที่ต้องการส่งกำลังใจไปให้ทหารและชาวบ้านที่เดือดร้อนสามารถร่วมบริจาคสิ่งของเพิ่มเติมได้ที่เต้นท์กองทัพธรรมจนถึงเวลา 09.00 น.ของวันที่ 11 ก.พ. หากสิ่งของไม่เพียงพอคณะกรรมการฯ จะนำเงินที่ได้รับบริจาคในกองทุนทวงคืนปราสาทพระวิหารไปจัดหาเพิ่มเติม โดยคาดว่ารถขนสิ่งของจะเดินทางถึงที่ทำการ อ.กันทรลักษ์ ประมาณ 17.00 น. และจะมีผู้แทนของกองทัพเป็นผู้รับมอบ
ส่วนการหารือกับ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น ตำรวจได้เจรจาเพื่อขอเปิดช่องทางจราจร แต่ตนได้ปฏิเสธไป พร้อมบอกด้วยว่าเมื่อตำรวจรับคำสั่งจากรัฐบาลมา ควรพิจารณาและตัดสินใจได้โดยไม่ต้องเกรงใจพันธมิตรฯ โดยเฉพาะการจับกุมหรือขอพื้นที่คืนสลายการชุมนุมที่สามารถทำได้ทุกนาที เพราะไม่ว่ารัฐบาลจะประกาศกฎหมายหรือคำสั่งใดก็ไม่ทำให้พันธมิตรฯ ออกจากพื้นที่นี้ได้ ทั้งนี้เข้าใจว่าผู้ที่สัญจรไปมาอาจต้องรถติดบ้าง เสียเวลาบ้าง แต่ก็ดีกว่าเสียดินแดน
ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า วันพรุ่งนี้(10 ก.พ.) ทีมกฎหมายจะยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้มีคำสั่งเพิกถอนการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในพื้นที่ 7 เขตของกรุงเทพฯ ที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)วานนี้ เนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ยังอยู่ในกรอบของกฎหมายและไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ดังนั้น ไม่เข้าองค์ประกอบของเงื่อนไขที่จะนำกฎหมายดังกล่าวมาบังคับใช้ และอาจยื่นฟ้องดำเนินคดีกับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเนื่องจากเป็นการทำเกินกว่าเหตุ
ส่วนกรณีกระแสข่าวความพยายามในการขอพื้นที่คืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวว่า พวกเราเป็นคนไทยที่มาชุมนุมในพื้นที่ประเทศไทย ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เหตุใดรัฐบาลจึงต้องพยายามขับไล่เรา หากต้องการผลักดันควรไปทำหน้าที่ผลักดันทหารและประชาชนกัมพูชาให้ออกไปจากผืนแผ่นดินไทย ไม่ใช่ปล่อยให้มายึดเป็นฐานทัพยิงคนไทยอยู่อย่างนี้
"การอ้างกฎหมายบังคับใช้พื้นที่นี้เป็นเพียงความพยายามในการกลั่นแกล้งพันธมิตรฯเท่านั้น แต่บริเวณเขาพระวิหารเป็นอุทยานแห่งชาติแท้ๆ กลับปล่อยให้กัมพูชาเข้ามายึด เหตุใดรัฐบาลจึงเลือกปฏิบัติ หรือว่าให้ค่าพันธมิตรฯ ต่ำกว่ากัมพูชาเช่นนั้นหรืออย่างไร" นายปานเทพ กล่าว
ด้านนายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ได้ประณามกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่ไม่ทำหน้าที่ปกป้องเอกราชอธิปไตยของประเทศ จากที่กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์ให้การเท็จ แต่ไม่มีการตอบโต้ ปล่อยให้กัมพูชาเข้ามายึดครองพื้นที่ประเทศไทยโจมตีพลเรือนชาวไทย โดยรัฐบาลเพิกเฉยไม่มีการประท้วง แต่กลับหันตำหนิกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เป็นคนไทยด้วยกัน
นอกจากนั้น การที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่า พล.ต.จำลองและกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการให้มีการปฏิวัติ และระบุด้วยว่า พล.ต.จำลองออกมาเมื่อไรจบไม่สวยทุกครั้งนั้น ขอยืนยันว่าผู้ชุมนุมไม่เคยเรียกร้องให้มีการปฏิวัติ แต่เรียกร้องให้รัฐบาลทำหน้าที่ หากไม่ทำก็ควรลาออกไป