นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ในวันที่ 13 ก.พ.กลุ่ม นปช.ยังคงนัดชุมนุมที่บริเวณหน้าศาลอาญาเพื่อทวงคืนความยุติธรรม แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงอยู่ในขณะนี้ และคืนวันดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม จะโฟนอินเข้ามาที่เวทีปราศรัยด้วย
"การชุมนุมที่ศาลอาญาถือว่ามีความอ่อนไหว แต่ที่ไปเพื่อยืนยันว่าเราต้องการทวงคืนความยุติธรรม ถ้าเดือนหน้าคนเสื้อแดงยังไม่ได้ประกันตัวอีกก็จะเคลื่อนขบวนไปเรื่อยๆ"นายจตุพร กล่าว
กิจกรรมในวันดังกล่าวจะมีการอ่านจดหมายปรับทุกข์ของแกนนำ นปช. ในเรือนจำ และสั่งห้ามผู้ชุมนุมนำป้ายใดๆ ที่เป็นลักษณะต่อว่าศาล เข้าร่วมชุมนุมอย่างเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และภายหลังจากอ่านจดหมายแล้วจะร่วมกันวางดอกไม้ พร้อมกับมุ่งหน้าไปปักหลักชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยจะชุมนุมถึงเวลาประมาณเที่ยงคืนไม่ยืดเยื้อ
ขณะที่นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า การชุมนุมในวันที่13 ก.พ.นี้ จะใช้คำขวัญเฉพาะหน้า คือ ต่อต้านรัฐประหาร คัดค้านสงคราม ทวงคืนความยุติธรรม
พร้อมระบุถึงกรณีที่ศาลนัดไต่สวนกรณีการประกันตัวแกนนำนปช. ในวันที่ 21 ก.พ.ว่า ถือเป็นเรื่องดีที่ศาลจะได้มีการพิจารณา อย่างไรก็ตาม แกนนำ นปช. ได้นัดหมายกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันอีก วันที่ 19 ก.พ. นี้ ที่ศาลฎีกา เพื่อร่วมกันอ่านจดหมายปรับทุกข์ขอความยุติธรรมด้วย
ด้านนายบูรณ์ ฐาปนดุล อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้มีหนังสือเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยจากกรณีกลุ่ม นปช.ที่จะเดินทางมาชุมนุมกันที่หน้าศาลอาญาในวันที่ 13 ก.พ. โดยสั่งเจ้าหน้าที่ศาลทุกคนห้ามมาทำงาน ยกเว้น นายมานิตย์ สุขอนันต์ รองอธิบดี กับพวกรวม 8 นาย เท่านั้น และให้เก็บของมีค่าเคลื่อนย้ายยานพาหนะไปจอดบริเวณนอกศาลทั้งหมด
พร้อมกับจะมีการตั้งศูนย์รักษาความปลอดภัย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาอาคารศาล 1 พันนาย จัดเก็บข้อมูลศาลไว้ในห้องมั่นคง เตรียมรถดับเพลิง ชุดแพทย์ เป็นต้น