นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลัง ส.ส.พรรคเพื่อไทยวอล์คเอาท์ไม่ร่วมลงมติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระ 3 ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีความบกพร่องหลายประการทั้งขัดรัฐธรรมนูญและขัดข้อบังคับ ซึ่งพรรครับไม่ได้ ซึ่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะไม่ร่วมลงมติ และจะเดินทางกลับบ้าน
โดยหลังจากนี้จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญเอง
นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยไม่ร่วมสังฆกรรมด้วย เนื่องจากการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 นั้น นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยและคณะได้ยื่นญัตติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 117 ให้กับนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาลงจากการทำหน้าที่ หลังจากที่ทำไม่ถูกต้องตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 86 ดังนั้นที่ประชุมจึงสามารถใช้ข้อบังคับข้อ 117 เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องได้ การประชุมวันนี้นอกจากฝ่ายค้านแล้วยังมี ส.ว.ที่พยายามทักท้วงด้วย
"นายชัยควรที่จะพิจารณา ไม่ใช่บอกว่าขอรับผิดชอบเอง ทั้งๆ ที่มันไม่ชอบตามข้อบังคับ ดังนั้น เราจึงไม่สามารถร่วมสังฆกรรมได้ เพราะมองว่าน่าจะไม่ชอบด้วยข้อบังคับและอาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญด้วย" นายวิทยา กล่าว
นายวิทยา กล่าวว่า ถ้าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านก็จะหารือกันในข้อกฎหมาย ส่วนเรื่องการล่ารายชื่อส.ส.เพื่อยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้น พรรคมีความพร้อมอยู่แล้ว และเชื่อว่าส.ว.เองก็พร้อมด้วยเช่นกันโดยเฉพาะนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา
ด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การกระทำของรัฐสภาขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภาและขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน เพราะการตั้งคณะกรรมาธิการฯ ขึ้นมาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราในวาระ 2 นั้น จำนวนคณะกรรมาธิการฯ ที่ตั้งขึ้นมีทั้งหมด 45 คน แต่พรรคเพื่อไทยไม่ร่วมด้วยจึงทำให้สัดส่วนของพรรคเพื่อไทยว่างไว้ประมาณ 12 คน
แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับตั้งตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปเป็นคณะกรรมาธิการฯ ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยที่ว่างไว้แทน ดังนั้น จึงไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตด้วยว่าเป็นการจงใจให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ชอบและต้องตกไปหรือไม่ เพราะจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบและยังถือว่าได้ทำตามที่สัญญากันไว้กับพรรคร่วมรัฐบาลแล้วอีกด้วย
ขณะที่นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีความคิดที่จะแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีกับประธานรัฐสภา และรองประธานรัฐสภา เพราะกระทำผิดข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 117 ที่ระบุว่าการวินิจฉัยเป็นอำนาจของที่ประชุมที่จะวินิจฉัย แต่ประธานรัฐสภาได้ใช้อำนาจตัวเองวินิจฉัย โดยกำลังพิจารณาว่าจะทำในนามพรรคหรือส่วนตัว จะรอหารือกับทางพรรคก่อน