นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งใหม่ขึ้นในช่วงเดือนมี.ค. หรือ เม.ย.นี้ได้หรือไม่ เพียงแต่เงื่อนไขที่จะนำไปสู่การยุบสภาเหลือแค่เพียงเงื่อนไขเดียว คือ ความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ซึ่งโดยรวมถือว่าสถานการณ์บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยและสามารถนำไปสู่การประกาศยุบสภาได้
"ในขณะนี้ก็เหลือข้อที่ 3 ถ้าบ้านเมืองยังอยู่ในภาพรวมอย่างนี้ ก็ยังสามารถยุบสภาได้ ไม่มีปัญหา...โดยทั่วๆ ไป ยังสงบในระดับหนึ่ง แต่ยังเป็นห่วง เพราะมีการทำผิดกฎหมายอยู่บ้าง ถ้าหมดการชุมนุมในช่วงนี้ไป คิดว่ากลับเข้าสู่กฎหมายปกติได้ ก็จะเป็นเรื่องที่ชัดเจนขึ้น" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวานได้มีโอกาสหารือเรื่องการเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งใหม่กับนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ซึ่งนายอภิชาติ ระบุว่า จะให้นายนายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เป็นผู้ดูแลในเรื่องนี้
อย่างไรก็ดี หลังจากที่ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาในวาระ 3 แล้ว รัฐบาลจะรอให้รัฐสภาส่งเรื่องมาให้ ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป แต่หากฝ่ายค้านยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้มีการดำเนินการในบางขั้นตอนที่ขัดกับหลักของกฎหมายหรือไม่นั้น รัฐบาลก็คงยังไม่สามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า รัฐบาลยังไม่ได้กำหนดเส้นตายที่จะให้กลุ่มพันธมิตรฯ เปิดช่องทางการจราจร เพราะการดำเนินการดังกล่าวเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเบื้องต้น พล.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ผอ.ศอ.รส.) ยังไม่ได้รายงานว่าจะดำเนินการอย่างไร เพียงแต่คาดว่าจะใช้แนวทางการเจรจาเป็นหลักก่อน
ส่วนการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดงที่นัดรวมตัวกันหน้าศาลอาญา ถ.รัชดาฯ ในวันที่ 13 ก.พ.นี้ แนวทางการดูแลรักษาความปลอดภัยจะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปประสานงาน แต่ขณะนี้ยังไม่มีเหตุใดบ่งบอกว่าจะมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น