นายพีรพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะฝ่ายกฎหมาย กล่าวว่า ความพยายามของรัฐบาลไทยที่จะใช้แนวทางการเจรจาระดับทวิภาคีเพื่อแก้ปัญหาพิพาทเรื่องดินแดนไทย-กัมพูชาหลุดมือไปแล้วหลังจากตอบรับมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(UNSC) ที่ให้ทั้ง 2 ประเทศหยุดยิงถาวรและให้อาเซียนเข้ามาเป็นตัวกลางแก้ปัญหาดังกล่าว
"เรื่องนี้นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศ ระบุว่าเป็นชัยชนะของไทย แต่จากที่ผมวิเคราะห์เนื้อหามติของยูเอ็นเอสซีแล้วเห็นว่าไม่ได้เป็นไปอย่างที่นายกษิตพูด เพราะมติที่ระบุว่าให้อาเซียนเข้ามามีส่วนในการแก้ปัญหานั้น เรายังไม่ทราบว่าอาเซียนจะเข้ามาในรูปแบบใด แต่ตรงนี้ชัดเจนว่าความพยายามของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลที่จะให้การแก้ปัญหาเป็นแบบทวิภาคีนั้นได้หลุดมือไปแล้ว เพราะมีบุคคลอื่นเข้ามาร่วมแก้ปัญหาโดยตรงซึ่งถือเป็นครั้งแรก" นายพีรพันธ์ กล่าว
ส.ส.ยโสธร กล่าวว่า ตนเองขอเรียกร้องให้รัฐบาลบอกความจริงต่อประชาชน อย่าบิดเบือนอีกต่อไป เพราะก่อนหน้านี้เคยเตือนแล้วว่าอย่าส่งนายกษิตไปร่วมประชุม เพราะการทำงานของนายกษิตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านดีขึ้นเลย
ส.ส.ยโสธร กล่าวว่า ถึงแม้มติของยูเอ็นเอสซีจะไม่ได้ถือเป็นคำสั่ง แต่เป็นคำแนะนำที่มีผลทางกฎหมายระหว่างประเทศที่จะต้องปฏิบัติตาม
ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค พท. กล่าวว่า ขณะนี้มีการดำเนินการรวบรวมรายชื่อประชาชนจำนวน 5 หมื่นคนตามรัฐธรรมนูญเพื่อยื่นถอดถอนนายกษิตออกจากตำแหน่ง ซึ่งคาดว่าจะรวบรวมได้ครบในเร็วๆ นี้