นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ชี้ฝ่ายกัมพูชายังไม่ต้องการให้สถานการณ์ชายแดนเกิดความสงบ แม้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(UNSC) จะมีมติให้ไทย-กัมพูชาหยุดยิงแล้วก็ตาม ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลให้กัมพูชาถูกประชาคมโลกกดดัน
"แม้จะต้องมีการกระทบกระทั่งกันเพราะอีกฝ่ายต้องการทำให้สถานการณ์ไม่จบ แต่ทหารไทยจะไม่ทำให้ประเทศเราเสียเปรียบ" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สุกเห็นใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว และขอชื่นชมผู้บังคับบัญชาที่กำชับให้กำลังพลอยู่ในระเบียบวินัย ไม่ให้เกิดอารมณ์โมโหในเวลาที่ถูกยั่วยุแล้วไล่ติดตามข้ามเขตแดนไปจนกลายมาเป็นประเด็นปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศ
"เราแค่ปกป้องตัวเองรักษาฐานที่มั่น เชื่อว่าในที่สุดความมีเหตุมีผล การที่ต้องอยู่ภายใต้สายตาของประชาคมโลก เหมือนที่ผู้ชุมนุมของเราที่ต้องอยู่ภายใต้สายตาของประชาชนทั้งประเทศก็ต้องถูกกดดันด้วยประชาคมโลก" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ ยอมรับว่า สาเหตุที่ทำให้รัฐบาลกัมพูชาไม่พอใจรัฐบาลนี้คงมีหลายเรื่อง บางเรื่องก็เป็นเพราะว่าความล่าช้าในกระบวนการขั้นเจรจาที่ต้องมีขั้นตอนการปฏิบัติ ตนเองก็ต้องพูดด้วยความระมัดระวังจริงๆ ไม่เช่นนั้นจะลำบาก
"ไม่ใช่ครับ เป็นเฉพาะเรื่อง โกรธกันบางเรื่อง ดีกันบางเรื่อง" นายสุเทพ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายไตรรงค์ สุวรรณคิรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ และนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ จะเดินทางไปร่วมงานนิทรรศการแสดงสินค้าไทยที่กรุงพนมเปญในวันพรุ่งนี้(17 ก.พ.) จะมีความสำคัญในการช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการค้า โดยเฉพาะช่วยลดผลกระทบด้านการค้าชายแดน
"ผมคิดว่าในใจลึกๆ ของสมเด็จฮุนเซนก็หวังที่จะให้ความสัมพันธ์ของไทยกับกัมพูชาดีขึ้น เพราะการค้าของระหว่างประชาชนสองประเทศมีความหมายต่อการดำรงชีวิตของประชาชน" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องพยายามเข้าใจประเทศเพื่อนบ้าน จะให้คิดแบบเราทุกอย่างคงไม่ได้ แต่เราต้องเข้าใจว่าเขาคิดอะไร และมีอะไรที่เราสามารถร่วมมือได้ ตอบสนองได้ ความต้องการที่จะเข้าไปบริหารพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรบนปราสาทพระวิหารนั้นก็เป็นส่วนหนึ่ง การบริหารจัดการพื้นที่ร่วมกันนั้นเราเคยเสนอไปแล้วแต่ฝ่ายกัมพูชาไม่เอาด้วย