พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ได้เห็นชอบแผนรักษาความปลอดภัยการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 19 ก.พ.นี้ โดยจะใช้กำลังพลจำนวน 27 กองร้อย ดูแลตั้งแต่จุดนัดรวมตัวบริเวณแยกราชประสงค์ และตลอดเส้นทางที่เคลื่อนขบวนไปยังศาลฎีกาและอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมั่นใจว่าจะสามารถรักษาดูแลความสงบเรียบร้อยได้เหมือนที่ผ่านมา
เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา แกนนำกลุ่ม นปช.แถลงว่า จะปรับแผนชุมนุมในวันที่ 19 ก.พ.โดยนัดรวมตัวที่บริเวณแยกราชประสงค์เพื่อโปรยนกกระดาษสีแดงก่อนเคลื่อนขบวนไปมอบดอกไม้ที่ศาลฎีกา หลังจากนั้นจะเคลื่อนขบวนไปชุมนุมต่อที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจนถึงเที่ยงคืน จากเดิมที่นัดรวมตัวหน้าศาลฎีกาแล้วเคลื่อนขบวนไปยังบริเวณแยกราชประสงค์เพื่อขอมติจากกลุ่มผู้ชุมนุมว่าจะชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่
โฆษก ศอ.รส.กล่าวอีกว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพิ่มเติมอีกไม่น้อยกว่า 10 ราย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีก 1-2 วัน โดยผู้ที่ถูกออกหมายเรียกส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ขึ้นเวทีปราศรัยและพูดเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง
ส่วนการเจรจาให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดพื้นผิวจราจรตามประกาศของ ศอ.รส.นั้นยังไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมยังกังวลเรื่องความปลอดภัย และอ้างว่าช่วงวันหยุดจะมีผู้ชุมนุมมาเป็นจำนวนมากทำให้ต้องสงวนพื้นที่ไว้ให้ผู้ชุมนุม ไม่สามารถเปิดพื้นที่ได้ ตำรวจก็พยายามเจรจาช่วงวันปกติและช่วงเวลาเร่งด่วนให้ทางผู้ชุมนุมเปิดพื้นที่ให้แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบ
อย่างไรก็ตาม จะดำเนินการอย่างเร็วที่สุด โดยไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งและการเผชิญหน้าทำให้เกิดความวุ่นวาย ส่วนการขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงนั้นยังไม่ได้มีการหารือกัน เพราะต้องประเมินสถานการณ์เป็นระยะ และการชุมนุมอาจจะไม่ยาวนานอย่างที่คิด
โฆษก ศอ.รส.กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า คดีบุกยึดทำเนียบรัฐบาลมีผู้ต้องหาทั้งสิ้น 21 ราย ซึ่งได้นัดผู้ต้องหาเพื่อนำตัวส่งอัยการแล้ว แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ส่งทนายมาขอเลื่อนเป็นไม่เกินสิ้นเดือน ก.พ.นี้ ส่วนคดีบุกยึดสนามบิน ขณะนี้สำนวนพนักงานสอบสวนได้สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว โดย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.นัดประชุมสรุปคดีครั้งสุดท้ายหลังจากได้สั่งให้ไปสอบสวนเพิ่มเติมในบางประเด็น เพื่อลงความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้องในวันที่ 21 ก.พ.นี้