นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณีที่สมเด็ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเสนอให้มีการร่วมลงนามข้อตกลงหยุดยิงถาวรในเวทีที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในวันที่ 22 ก.พ.ว่า คำกล่าวในวันนี้เหมือนยอมรับว่าต้องหวนกลับมาใช้กระบวนการตามกรอบคณะกรรมการร่วมเขตแดนไทย-กัมพูชา(JBC) แต่รูปแบบที่ระบุข้อเสนอให้หยุดยิง คงต้องมาพูดคุยกันก่อน เพราะเห็นว่าขณะนี้ยังเป็นเรื่องที่ไกลเกินไป
“ที่นายกฯ ฮุนเซน พูดวันนี้เป็นการยอมรับการหวนกลับมาในกรอบ JBC ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต้องใช้เวลา โดยต้องมีข้อตกลงไม่นำไปสู่การปะทะกันอีก ต้องมาพูดคุยกันเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องที่จะไปไกลว่าจะมีการยกร่างเซ็นสัญญานั้น คงจะไม่ใช่ เพราะเราไม่ได้เป็นฝ่ายยิงก่อน"นายกรัฐมนตรี ระบุ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังไม่ทราบเจตนาของสมเด็จฮุนเซนว่ามีความต้องการอะไร เพียงแต่ในขณะนี้รัฐบาลเองก็จะเดินหน้าในการทำความเข้าใจกับทางกัมพูชาต่อไป อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าอาเซียนคงจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องของเนื้อหาสาระที่ทางรัฐบาลไทยกับกัมพูชาจะพูดคุยกัน แต่หากเป็นการสนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันก็เป็นเรื่องที่เรายินดี
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงเรื่องที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รายงานการพบกับคณะกรรมการมรดกโลก(ยูเนสโก)ว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการยูเนสโกมีความเข้าใจที่ดีขึ้นต่อกรณีปราสาทพระวิหาร แต่ก็ยังจำเป็นต้องทำงานอย่างต่อเนื่องในการชี้แจงในขั้นต่อๆ ไป
"เชื่อว่าขณะนี้ทางยูเนสโกมีความตื่นตัวมากขึ้น เพราะเชื่อว่ามองเห็นปัญหามากขึ้น แต่จะดำเนินการอย่างไรนั้นก็ต้องเป็นการตัดสินใจของทางยูเนสโกด้วย"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่จะมีการส่งผู้แทนพิเศษของยูเนสโกเข้ามาพื้นที่ของไทยและกัมพูชานั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า งต้องรอความชัดเจนทั้งจากทางไทยและกัมพูชาด้วย หากผู้แทนเข้ามาไม่ควรเข้ามาในลักษณะที่ส่งผลทำให้เกิดผลกระทบภายในพื้นที่ เพราะสภาพในพื้นที่ขณะนี้ถือว่ายังมีความละเอียดอ่อนอยู่