สหรัฐอเมริกา ในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้ใช้สิทธิออกเสียงยับยั้งร่างมติของยูเอ็นที่ให้ประณามอิสราเอลกรณีเข้าไปตั้งถิ่นฐานในดินแดนปาเลสไตน์ โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวของอิสราเอลเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ สมาชิกที่เหลืออีก 14 ประเทศของคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งรวมถึงอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส และรัสเซีย ซึ่งเป็นอีก 4 ชาติที่เป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคง ได้โหวตรับร่างมติดังกล่าว หลังจากการปรึกษาหารือเป็นการภายในระหว่างสมาชิก 15 ชาติของคณะมนตรีความมั่นคง
มาเรีย ลุยซา วิออตติ ทูตบราซิลประจำยูเอ็น ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคง ประกาศภายหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการออกเสียงว่า "ร่างมติดังกล่าวไม่ได้รับการรับรอง เนื่องจากได้รับเสียงคัดค้านหนึ่งเสียงจากสมาชิกถาวร"
ด้านนางซูซาน ไรซ์ ทูตสหรัฐประจำองค์การสหประชาชาติ ได้แถลงว่า การที่สหรัฐคัดค้านมติดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าสหรัฐให้การสนับสนุนการตั้งนิคมของชาวอิสราเอล แต่เป็นเพราะสหรัฐไม่เห็นด้วยกับการที่มติดังกล่าวใช้คำที่รุนแรง
"ร่างมตินี้มีความเสี่ยงที่จะทำให้ท่าทีของทั้งสองฝ่ายแข็งกร้าวขึ้น และอาจผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายหันหลังให้กับการเจรจา" นางไรซ์ชี้แจง
ร่างมติดังกล่าว ซึ่งร่วมสนับสนุนโดยสมาชิกกว่า 120 ชาติของยูเอ็น ได้ระบุย้ำว่า การตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลที่ดำเนินมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2510 เป็นการกระที่ผิดกฎหมาย และถือเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางกระบวนการสร้างสันติภาพในตะวันออกกลางอย่างชอบธรรม ยั่งยืน และครอบคลุม โดยได้เรียกร้องให้อิสราเอลยุติกิจกรรมการตั้งถิ่นฐานในดินแดนปาเลสไตน์ ซึ่งรวมถึงเวสต์แบงก์ และเยรูซาเลมตะวันออก ในทันทีและโดยสมบูรณ์
นอกจากนี้ ร่างมติดังกล่าวยังได้เรียกร้องให้ทั้งปาเลสไตน์และอิสราเอลเดินหน้าเจรจาโดยตรงต่อไป เพื่อบรรลุข้อตกลงสันติภาพภายในเดือนกันยายนนี้
ทั้งนี้ อิสราเอลถือเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกาในตะวันออกกลาง