นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีปัญหาน้ำมันปาล์มว่า จากการที่พรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ตรวจสอบพบมีการทำเป็นขบวนการจึงต้องบอกให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง สั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปจัดการเรื่องนี้ แต่ปรากฏว่าการลงไปตรวจของดีเอสไอ เหมือนการไปตรวจคาเฟ่มากกว่า อยากให้มีการตั้งคดีนี้เป็นคดีพิเศษ และลงไปตรวจใน จ.สุราษฎร์ธานี กระบี่ ชุมพร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร อย่างจริงจัง
"ส่วนตัวคิดว่าการที่รัฐบาลให้ดีเอสไอมาทำเรื่องนี้ เป็นเพียงการฟอกขาวให้ตนเองเท่านั้นการแก้ปัญหาน้ำมันปาล์ม ความจริงไม่ยาก ถ้ารัฐบาลไม่มีปัญญา ก็ยุบสภาหรือไม่ลาออกไปดีกว่า"
ส่วนนักการเมืองที่เกี่ยวข้องและตนเปิดเผยชื่อย่อไปแล้วนั้น ตัวย่อ ส. นั้นเป็นผู้ชายตัวย่อ พ. เป็นผู้หญิง และยังมีตัวประสานชื่อย่อ อ. ซึ่งเป็นผู้หญิง มีความเชี่ยวชาญเรื่องน้ำมันปาล์ม
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณี รมว.พาณิชย์ ออกมาระบุว่า มีเรือลอยอยู่ในน่านน้ำนั้น บอกเลยมีเรือลอยอยู่ 5 ลำ ลอยลำมาตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ลอยเหมือนรู้ว่าจะมีการอนุมัติซื้อน้ำมันปาล์ม เมื่อถึงเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคเพื่อไทยจะมีหลักฐานมากกว่ารูปภาพและใบเสร็จ
สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ เชื่อว่าจะมีการปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์มอย่างแน่นอน เพราะมีสินค้าถูกกักตุนจำนวนมากกำลังจะทยอยออกมา