นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ เปิดเผยว่า อาจจะมีการทบทวนการนำเข้านำมันปาล์ม 1.2 แสนตัน แล้วขอมติจากที่ประชุมฯในวันพรุ่งนี้ (22 ก.พ.) ให้นำเข้าน้ำมันปาล์มเพียง 2-3 หมื่นตันในช่วง 7 วันก่อนสิ้นเกือนก.พ.นี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ก่อนที่ผลผลิตใหม่จะออกสู่ตลาดในเดือนมี.ค.นี้
เนื่องจากรัฐบาลมีแผนนำเข้าน้ำมันปาล์มจำนวน 1.2 แสนตันให้เสร็จสิ้นในเดือนก.พ.นี้ แต่ทว่าเวลาล่วงเลยมานานแล้ว แต่กระทรวงพาณิชย์ยังไม่มีการดำเนินการนำเข้าแต่อย่างใด
"นี่คือความคิดของผมคนเดียว ว่าให้ยกเลิกมติเดิมที่ให้มีการนำเข้า 1.2 แสนตัน แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาขอมติจากที่ประชุมฯกันใหม่ให้นำเข้าเพียง 2-3 หมื่นตัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรต้องรอที่ประชุมคณะกรรมการฯปรึกษาหารือกันในที่ประชุมฯวันพรุ่งนี้"รองนายกฯ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ยอมให้ราคาน้ำมันปาล์มสูงกว่า 47 บาท/ขวด เนื่องจากเพิ่งปรับขึ้นราคาจาก 38 บาท/บวด มาเป็น 47 บาท/ขวด หากมีการปรับขึ้นราคาอีกจะเป็นการซ้ำเติมประชาชน
นายสุทเพ กล่าวว่า ยังไม่มีแนวคิดเปลี่ยนรูปแบบการนำเข้าน้ำมันปาล์มมาเป็นชนิดบรรจุขวดสำเร็จแต่อย่างใด ซึ่งในส่วนที่ตนรับผิดชอบตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีที่ให้ดูแลปาล์มน้ำมันไม่ให้ขาดตลาด, ดูแลราคาน้ำมันปาล์มไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชน และให้เกษตรกรที่กำลังจะมีผลผลิตปาล์มออกมาในเดือนมี.ค.สามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่ดี
อย่างไรก็ตาม การทำงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่โดยส่วนตัวยังไม่ได้มีการพูดคุยกับ รมว.พาณิชย์ แต่เชื่อว่าคงจะได้มีการหารือกันในการประชุมคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติในวันพรุ่งนี้
ส่วนเรื่องที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า มีผู้หญิงชื่อ "อ."มีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตน้ำมันปาล์ม ว่า ถ้าหากมีข้อมูลหลักฐานก็ให้ส่งมา รัฐบาลพร้อมตรวจสอบให้ รวมถึงหากพรรคเพื่อไทยจะนำเรื่องนี้ไปอภิปรายไม่ไว้ใจก็สามารถทำได้ รัฐบาลพร้อมจะชี้แจง