หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนแห่งหนึ่งเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในมณฑลเฮย์หลงเจียง ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนได้จับกุมตัวหญิงคนหนึ่งโทษฐานล้มล้างรัฐบาล หลังหญิงคนดังกล่าวเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและประชาธิปไตย
ศูนย์ข้อมูลด้านสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยเปิดเผยว่า นางเหลียง ไฮ่หยี หญิงวัย 35 ปีได้เดินทางไปยังเมืองฮาร์บินเพื่อเข้าร่วมม็อบ "ปฏิวัติมะลิ" ซึ่งเธอได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวออกมาหลังจากที่ได้เรียกร้องความเป็นประชาธิปไตยในจีนและวิพากษ์วิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์ที่เป็นพรรครัฐบาลกรณีกระทำการทุจริต ขณะที่อดีตสามีของนางเหลียงได้เซ็นเอกสารยืนยันว่า เธอถูกควบคุมตัวโทษฐาน "บ่อนทำลายอำนาจรัฐ" และกล่าวหมิ่นประมาท รวมถึงก่ออาชญากรรมซึ่งอาจต้องโทษจำคุกอย่างน้อย 10 ปี
ประชาชนหลายคนที่เข้าร่วมการประท้วงในขบวนการ "ปฏิวัติมะลิ" ในเมืองต่างๆ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวออกจากการชุมนุม โดยเหลียงเป็นสมาชิกของกลุ่มผู้ชุมนุมรายแรกที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาอาชญากรรมร้ายแรง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ประชาชนหลายร้อยคนได้มารวมตัวกันในกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเมืองอื่นๆ หลังจากมีข้อความลึกลับบนอินเทอร์เน็ตซึ่งขอให้ประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมเพื่อประท้วงต่อต้านรัฐบาลแพร่หลายในอเมริกาเหนือและหลายประเทศในตะวันออกกลาง
ศูนย์ข้อมูลฯ ระบุว่า นับตั้งแต่มีการโพสต์ข้อความบนเว็บไซต์จีนหลายแห่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการจีนได้เพิ่มการข่มขู่ผู้ที่ไม่เห็นด้วย ขณะที่ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและประชาชนกว่า 100 คนถูกนำตัวออกจากการชุมนุม
หลิว ชีฮุย ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนจากเมืองกว่างโจวกล่าวกับสำนักข่าวเกียวโดว่า เขาถูกกลุ่มอันธพาลทุบตีด้วยไม้ที่ใช้เป็นอาวุธ 4 - 5 ครั้ง เมื่อเดินทางออกจากบ้านเพื่อเข้าร่วมการประท้วงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
จากข้อซักถามที่ว่าเขาจะเข้าร่วมประท้วงในลักษณะนี้อีกหรือไม่ หลิวกล่าวว่า "ผมจะเข้าร่วมการชุมนุมที่เรียกร้องความยุติธรรม นี่เป็นสิทธิที่ผมมีตามกฏหมาย"
ทั้งนี้ ในจำนวนผู้สูญหายจากเหตุประท้วงทั่วกรุงปักกิ่งนั้นมีนายเทง เป่า ทนายความและนักวิชาการด้านกฎหมายชื่อดังของจีนซึ่งหายตัวไปตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมารวมอยู่ด้วย