นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธกรณีที่ข่าวตนเองสนับสนุนให้มีการบริหารจัดการพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบปราสาทพระวิหารร่วมกันภายใต้การขึ้นทะเบียนของประเทศกัมพูชา หวั่นถูกนำไปขยายความเพื่อปลุกระดมให้สังคมเกิดความไขว้เขวและเข้าใจผิด
"ที่มีการอ้างคำพูดของผมที่ไปบรรยายที่สถาบันพระปกเกล้าว่าผมไปเสนอให้มีการเข้าไปบริหารจัดการพื้นที่ 4.6(ตารางกิโลเมตร)ร่วมกันภายใต้การขึ้นทะเบียนของกัมพูชา ไม่ใช่นะครับ" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์"
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไทยเสนอให้มีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกร่วมกันมาโดยตลอด เพราะการบริหารจัดการพื้นที่ที่มีความคาบเกี่ยวทั้งในดินแดนของไทยและกัมพูชา และการที่ประเทศไทยมีกลไกทวิภาคีผ่านเอ็มโอยูปี 43 และเป็นสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลกถือเป็นเรื่องที่ดีและมีความจำเป็นในการชี้แจงให้ต่างชาติเข้าใจถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น
"ถ้าวันนี้เราไม่ได้เป็นสมาชิกของมรดกโลก นั่นหมายความว่ายูเนสโกและมรดกโลกจะฟังแต่ข้อมูลของฝั่งกัมพูชา" นายอภิสิทธิ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเองและรัฐมนตรีหลายคนได้เดินสายชี้แจงกับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งอาเซียน และสหประชาชาติ ซึ่งเชื่อว่าปัญหาจะคลี่คลายลงได้แม้จะมีการส่งคณะผู้สังเกตการณ์จากประธานอาเซียนเข้ามาในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะเกิดขึ้นอีกก็ตาม