นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงตามรังควานนายกรัฐมนตรีตามสถานที่ต่างๆ นั้น แสดงให้เห็นว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นอาจไม่เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเรื่องที่กลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยต้องรับผิดชอบ เพราะจะมาอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ เพราะน่าจะเป็นการจัดเตรียมกันมาอย่างชัดเจน ทางที่ดีการต่อสู้ควรเป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย ไม่ควรเล่นการเมือง 2 แนวทางคือทั้งในสภาและข้างถนน เรื่องนี้ต้องให้สังคมได้ติเตียน ซึ่งยืนยันว่า แนวทางของพรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีการออกมาต่อสู้นอกสภา โดยการปลุกระดมมวลชนให้ออกมาต่อต้าน
ซึ่งหากพฤติกรรมของกลุ่มคนเสื้อแดงยังเป็นแบบนี้อยู่ก็จะทำให้บรรยากาศการหาเสียงไม่ดีอย่างที่คาดหวังไว้ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะมีผลต่อการตัดสินใจยุบสภาเลือกตั้งใหม่ด้วย
นอกจากนี้ เห็นว่าการที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง ออกมาระบุว่ากลัวว่าผลเลือกตั้งออกมาแล้วประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเลือกตั้งแล้วอำนาจเก่าชนะการเลือกตั้งแล้วจะไม่เป็นที่ยอมรับนั้น อยากให้สังคมพิจารณาว่าบทบาทของนายณัฐวุฒิเป็นใคร ปัจจุบันยังมีสถานะเป็นจำเลยในคดีก่อการร้าย ได้รับความกรุณาจากศาลให้ได้รับการประกันตัวออกมาก็ควรจะสงบเสงี่ยมเจียมตัว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีวัฒนธรรมทางการเมืองที่จะอยู่ในกฎกติกาอย่างเคร่งครัด
ส่วนกรณีที่ตนพูดถึงเรื่องการระดมทุนในอนาคตว่า จะต้องหาผู้สนับสนุน 3 พันคน ที่พร้อมจะบริจาคให้เดือนละ 2 หมื่นบาทนั้น ตนพูดกับคนรุ่นใหม่ของพรรค เพราะการทำงานทางการเมืองของพรรคต้องใช้เงิน ซึ่งหากมีเงินทุนสนับสนุนก็จะส่งผลดีต่อการทำงานทางการเมือง ซึ่งที่ผ่านมาพรรคใช้วิธีระดมทุนบอกบุญ เหมือนการทอดกฐิน หรือทอดผ้าป่า แต่หากใช้แนวทางที่ตนนำเสนอจะทำให้การดำเนินการชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันคนที่บริจาคก็เป็นเหมือนที่ปรึกษาที่จะมาสะท้อนความคิดเห็นให้พรรคเป็นแนวทางในการดำเนินการได้
นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคงจะไม่มองในแง่ร้ายว่ากลุ่มคนที่จะมาสนับสนุนพรรคจ้องมองที่จะเข้ามาถอนทุน แต่น่าจะเป็นการเข้ามาช่วยกันทำงานมากกว่า เพราะจะทำให้พรรคเดินไปในแนวทางที่ถูกต้อง
ส่วนกรณที่นายณัฐวุฒิออกมาประกาศว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยอมรับผลการเลือกตั้งหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการกระทำของกลุ่มนายณัฐวุฒิก็เป็นการยืนยันแล้วว่า ไม่ยอมรับ เพราะจะเห็นได้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลเมมื่อครั้งที่สนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช หรือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ยอมรับ แต่พอพรรคร่วมรัฐบาลย้ายข้างมาสนับสนุนนายอภิสิทธิ์กลับไม่ยอมรับ เชื่อว่าเป็นแค่การตีฝีปากเท่านั้น และเป็นการเล่นการเมืองทั้งในและนอกสภา อีกทั้งการมุ่งหวังลงสมัครรับเลือกตั้งก็เพื่อหวังเอกสิทธิ์คุ้มครองจากการถูกดำเนินคดี
สำหรับการเลือกตั้ง ตนคงไม่พูดล่วงหน้าว่าจะได้รับเลือกตั้งเท่าไหร่ ไม่โอ้อวดล่วงหน้า แต่พยายามจะนำเสนอว่ามีอะไรที่พรรคพอจะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และคิดว่าการที่ตนออกมาชี้แจง ไม่ใช่การตอบโต้ แต่บางครั้งหากปล่อยให้มีการพูดข้อมูลผิดๆ นานๆ จะทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้
ส่วนการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตนติดร่างแหไปด้วย เป็นเรื่องปกติธรรมดา และชอบ เพราะจะเป็นโอกาสดีที่จะมีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบแลตัดสินใจว่าข้อมูลที่ถูกกล่าวหากับข้อมูลที่ตนชี้แจงอันไหนคือข้อเท็จจริง และไม่ติดใจว่าการอภิปรายฯจะใช้เวลานานแค่ไหน
ส่วนกรณีที่นายณัฐวุฒิออกมาระบุว่าการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 เป็นเพราะรัฐบาลไม่ยอมเจรจาต่อและใช้กำลังเข้าสลายเลย ตรงนี้เป้นอีกประเด็นที่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะที่ผ่านมาการที่นายกรัฐมนตรีตั้งโต๊ะเจรจากับแกนนำคนเสื้อแดงก็แสดงให้เห็นธาตุแท้ของคนเสื้อแดง แต่การดำเนินการของเจ้าหน้าที่เป็นเพียงการเข้าไปกระชับพื้นที่ ไม่ใช่การสลายการชุมนุม เพราะสาเหตุที่ต้องกระชับพื้นที่เนื่องจากมีกลุ่มคนร้ายส่องสุมอาวุธที่สวนลุม และคอยก่อเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวนมาก ซึ่งใน 91 ศพเป็นผู้บริสุทธิ์ที่เป็นทั้งประชาชนและตำรวจทหาร ซึ่งเป็นฝีมือของกลุ่ม นปช.
ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่หนีการอภิปรายฯอย่างแน่นอน พร้อมจะเผชิญข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านและพร้อมจะชี้แจงทั้งหมด แต่ตนคงไม่ไปสบประมาทว่าจะมีหลัดกฐานหรือไม่ ส่วนที่อ้างว่ามีใบเสร็จ ก็ต้องรอดูว่าเป็นใบเสร็จหรือกระดาษห่อของ แต่เรื่องนี้ประชาชนเป็นใหญ่ และจะได้เห็นธาตุแท้ของนักการเมือง