พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าจะขอคืนพื้นที่บริเวณถ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมนุมของกองทัพธรรมและเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติว่า เป็นไปได้ยาก เนื่องจากพื้นที่จำกัดและมีสิ่งของที่กีดขวางทางจราจรค่อนข้างมาก โดยตนเคยไปช่วยจัดการจราจรก่อนหน้าที่จะมีการชุมนุมของพันธมิตรฯ ซึ่งยังมีผู้เข้าร่วมชุมนุมน้อย ก็สามารถเปิดการจราจรได้บ้าง แต่เมื่อมีคนมากขึ้น ก็เป็นไปได้ยาก เพราะเส้นทางแคบ และมีโรงครัว เวที รวมไปถึงกิจกรรมหลายๆอย่างที่มีมวลชนเข้าร่วมตลอดวัน จึงต้องอยู่อย่างอดทน และดูว่าเจ้าหน้าที่จะมาทำให้เกิดความยุ่งยากได้แค่ไหน แต่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ในส่วนกรณีที่จะมีการจัดงานกาชาดช่วงปลายเดือน มี.ค.ที่อาจจะต้องมีการเปิดพื้นที่การชุมนุมนั้น ตนเห็นว่ายังอีกนาน ถึงเวลานั้นอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปแล้วก็ได้ อย่าเพิ่งคาดเดากันก่อน
"ต้องถามเจ้าหน้าที่ว่าเหตุใดจึงต้องมากังวลกับพื้นที่ตรงนี้ พื้นที่อื่นเช่น หน้าบ้านนายกฯ เหตุใดจึงไม่เปิดการจราจร คงต้องถามกลับว่า ต้องการกลั่นแกล้งให้ถึงที่สุดเช่นนั้นหรือ ซึ่งการเปิดพื้นที่จราจรต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยด้วย เพราะบริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการที่เพิ่งเปิด ก็เกือบมีประชาชนถูกรถชน"
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การชุมนุมที่ผ่านมานับถึงวันนี้เป็นวันที่ 36 ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเพียงเมื่อวานนี้ที่ทำให้ประชาชนไม่สบายใจที่เจ้าหน้าที่เข้ายึดคืนพื้นที่เท่านั้น แต่ตนและคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ก็ได้กล่าวย้ำให้ทุกคนสบายใจ และผลัดเปลี่ยนกันเข้าร่วมการชุมนุมอย่างปกติ เพราะเห็นใจที่ผู้ชุมนุมหลายคนเหน็ดเหนื่อยเสียเงินเสียทองมาช่วยการชุมนุม
อย่างไรก็ตาม ก็คิดว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ไปเช่นนี้ มีประโยชน์ต่อบ้านเมือง และได้สื่อสารข้อมูลข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับฟัง ส่วนจะเชื่อถืออย่างไรก็เป็นดุลพินิจของประชาชน
ส่วนกระแสที่ระบุว่านายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ได้ลงนามขออภัยโทษต่อกษัตริย์กัมพูชาแล้ว พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เป็นเรื่องการตัดสินใจของครอบครัวทั้ง 2 คน ซึ่งทางเราก็มีการประชุมเป็นกลุ่มย่อยที่จะเข้าไปช่วยเหลือในการกดดันทางการกัมพูชาให้มีการปล่อยนายวีระ และ น.ส.ราตรี แต่ในฐานะภาคประชาชนก็ทำอะไรไม่ได้มาก ไม่เหมือนรัฐบาลที่สามารถทำได้ เพราะมีเครื่องมือ และบทบาท แต่กลับไม่ทำตามที่เราได้เสนอ
“เราเห็นใจว่าเหตุใดทั้งคู่จึงโชคร้ายต้องติดคุกอยู่ที่กัมพูชาตั้งนาน สิ่งที่เราเสนอแนะให้รัฐบาลทำ แต่ก็ไม่ทำ จึงน่าเห็นใจโดยเฉพาะตามข่าวที่บอกว่านายวีระมีโรคประจำตัว เมื่ออยู่ในคุกที่ต่ำกว่ามาตฐาน คงไม่ได้รับความความสะดวกในการหายาหรือหมอมารักษา" พล.ต.จำลอง กล่าว
สำหรับกรณีหากมีการยุบสภา ทางกลุ่มพันธมิตรฯ จะยังคงชุมนุมอยู่ที่นี่ เนื่องจากจะมีนายกรัฐมนตรีรักษาการณ์ ซึ่งสามารถทำหน้าที่รักษาชาติบ้านเมืองได้ตามปกติ แต่เวลาที่ผ่านไปจะทำให้เสียเปรียบกัมพูชามากยิ่งขึ้น
"พันธมิตรฯไม่ได้มาชุมนุมให้มีการยุบสภา เพราะเจตนาของเราใหญ่กว่าที่ต้องการปกป้องดินแดน" พล.ต.จำลอง กล่าว