"มิ่งขวัญ"ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ 9 รมต.-ยื่นถอดถอน 8 รมต.เว้น "กษิต"

ข่าวการเมือง Tuesday March 1, 2011 15:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.เพื่อไทย ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รวม 9 คน ประกอบด้วย 1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี 2.นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง 3.นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ 4.นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี 5.นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6.นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย 7.นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม 8.นายศุภชัย โพธิสุ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ 9.นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ

ในญัตติดังกล่าวระบุข้อกล่าวหาว่า รัฐมนตรีดังกล่าวบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินได้ตามที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา และไม่เป็นไปตามการบริหารราชการแผ่นดินและแผนการตรากฎหมายที่จัดทำไว้ กำหนดนโยบายในการบริหารราชการในกระทรวง ทบวง กรม ไม่ถูกต้องไร้ทิศทาง ไม่ดูแลให้มีการปฏิบัติและการบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมายอยางถูกต้อง เป็นธรรม ลุแก่อำนาจ มุ่งใช้อำนาจตามกฎหมายพิเศษเกินกว่ากรณีแห่งความจำเป็นเพื่อริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนในทุกด้าน และซ้ำร้ายยังมุ่งหาประโยชน์โดยทุจริตจากการบริหารราชการแผ่นดินที่อ้างว่าเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายพิเศษในการปราบปรามประชาชนที่ชุมนุม

ไม่ควบคุมให้มีการรักษาวินัยการเงินการคลังเพื่อสนับสนุนเสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการทุจริตและความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน นอกจากนั้นยังไม่กำกับให้มีการประกอบกิจการให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม แต่จงใจละเลยให้มีการจัดซื้อจัดจ้างในลักษณะผูกขาดตัดตอน กักตุนสินค้า ทำให้ประชาชนผู้บริโภคเสียหาย และเกิดผลกระทบต่อโครงสร้างหรือโครงข่ายขั้นพื้นฐานของกิจการสาธารณูปโภคอันจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ทำให้มีการผูกขาดโดยเอกชนอันอาจก่อความเสียหายแก่รัฐในหลายโครงการ

ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามหลักนิติธรรมและหลักธรรมาภิบาลขาดคุณธรรมและจริยธรรม ทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนในการบริหาราชการแผ่นดิน ไม่รักษาผลประโยชน์ส่วนรวมเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตน ไม่คุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของเกษตรกรในการผลิตและการตลาด

ล้มเหลวในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร เข้าแทรกแซงการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน ทั้งยังหาประโยชน์จากองค์กรของรัฐ รัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องกับสื่อของรัฐ และเกี่ยวข้องกับการสื่อสาร ไม่ยึดหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ไม่สามารถแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน โดยปล่อยให้ประชาชนต้องจำทนกับความยากลำบากในการดำรงชีวิตจากกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นมีราคาสูงขึ้นและขาดแคลน

ไม่ใส่ใจความทุกข์ยากของประชาชนมุ่งเน้นการเล่นการเมืองเพียงเพื่อแบ่งผลประโยชน์ระหว่างกัน ซึ่งการบริหารราชการแผ่นดินเกี่ยวกับแนวนโยบายด้านการต่างประเทศล้มเหลว ไม่ส่งเสริมสัมพันธไมตรีและความร่วมมือกับนานาประเทศ ทำให้กระทบต่อการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวและกระทบต่อผลประโยชน์ของคนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ฝ่ายค้านระบุว่า หากปล่อยหรือยอมจำทนให้บริหารราชการแผ่นดิน ที่มีทั้งกรณีทุจริตประพฤติผิดต่อต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และการบริหารงานที่ล้มเหลวและไร้ประสิทธิภาพต่อไป จะทำให้เกิดผลกระทบต่อประโยชน์สำคัญของแผ่นดินและประชาชนที่จะได้รับความเดือดร้อนเสียหายยากที่จะทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนและประโยชน์สำคัญของแผ่นดินกลับคืนดังเดิมได้

ดังนั้น ได้ขอใช้สิทธิในมาตรา 159 ตามรัฐธรรมนูญปี 50 เพื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลทั้ง 9 คน โดยที่รัฐมนตรีตามลำดับ 1-8 มีพฤติการณ์ที่ส่อว่าทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฏหมาย ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จึงได้แนบคำร้องขอถอดถอนบุคคลดังกล่าวออกจากตำแหน่งด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ