นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)และพล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา อดีตผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ออกมาแถลงข่าวการตายของนายฮิโรยูกิ มูราโมโต้ สื่อมวลชนชาวญี่ปุ่นที่ระบุว่านายฮิโรยูกิ เสียชีวิตจากกระสุนปืนอาก้า และปืนชนิดนี้ไม่มีใช้ในกองทัพนั้น เป็นการกระทำผิดกฎหมายเพราะดีเอสไอส่งสำนวนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) โดยอ้างว่าไม่มีอำนาจ ทั้งๆก่อนหน้านี้สตช.ส่งเรื่องให้ดีเอสไอเพราะกรรมการคดีพิเศษนำเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษแล้ว แต่ทำไมยังส่งไปให้สตช.อีก
นายจตุพร กล่าวว่า นายธาริตร่วมกับพล.ต.ท.อัมพร กระทำผิดกฎหมาย โดยพล.ต.ท.อัมพรสนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำผิด บิดเบือนรูปคดีช่วยเหลือผู้ถูกกล่าวหา และไม่ได้อยู่ในชุดชันสูตร รวมทั้งยังวิจารณ์เรื่องนี้จากภาพถ่ายนั้น ขัดจรรยาบรรณแพทย์ ฉะนั้นจะมีการแจ้งความบุคคลทั้งสองคน โดยนายธาริตโดนฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 และที่ระบุว่าเป็นกระสุนปืนอาก้านั้น หน่วยทหารไม่มีปืนอาก้าแต่วิถีกระสุนที่นายฮิโรยูกิโดนนั้นมาจากฝั่งทหาร
"การบิดเบือนสำนวนสอบสวนจากดีเอสไอนั้น ขอให้นายธาริตไปถามผบ.ทบ.ว่ากองพันทหารราบที่สอง ศูนย์การทหารค่ายธนะรัชต์ หน่วยการศึกษากองทัพบก โรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายร้อยจปร. โรงเรียนทหารราบ โรงเรียนศูนย์สงครามพิเศษ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ หน่วยรบในกองทัพบก รวมทั้ง ร.11รอ. ,ร.1รอ. ,ร.31ลพบุรี หน่วยงานเหล่านี้มีปืนอาก้าที่เรียกว่าเป็นอาวุธนอกยอดหรืออาวุธนอกอัตราที่ไม่เปิดเผย ไม่แจ้งยอด ไม่แจ้งใช้ในปฏิบัติการพิเศษ ฉะนั้นนายธาริตอย่าแสดงความโง่ออกมาแบบไม่ควรให้อภัย เพราะพรรคเพื่อไทยมีอดีตผบ.ทบ.สามคน รวมทั้งนายทหารชั้นผู้ใหญ่อีกมาก อย่าคิดว่าพรรคและตนจะไม่รู้เรื่องนี้"นายจตุพร กล่าว
ส่วนการที่นายธาริต มาข่มขู่ไม่ให้ 7 แกนนำนปช.ขึ้นเวทีในวันที่ 12 มี.ค.นั้น นายจตุพร กล่าวว่า ศาลไม่ได้สั่งห้าม ฉะนั้นขอให้นายธาริตหยุดพฤติกรรมข่มขู่อย่างนี้ ต่อจากนี้ไปตนจะมีการฟ้องนายธาริตทุกเรื่อง
นายจตุพร กล่าวต่อว่า สำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นหากมีการยุบสภานั้น ตนคิดว่าการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการกำหนดกติกาการเลือกตั้งนอกจากจะทำให้เกิดความเป็นธรรมแล้ว ตนคิดว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าควรจะยกเลิกได้แล้ว เพราะที่ผ่านเห็นได้ชัดว่ามีการใช้การเลือกตั้งล่วงหน้า เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการชิงความได้เปรียบที่มีผลต่อคะแนนการเลือกตั้ง