นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการต่อสู้คดีความในศาลแพ่งที่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อพิจารณาบังคับระงับการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงว่า ศาลได้พิจารณาครบถ้วนแล้วในชั้นไต่สวนเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยในวันที่ 2-3 มี.ค.จะมีการไต่สวนในส่วนคดีของเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ และจะมีการตัดสินในวันที่ 4 มี.ค. เวลา 13.00 น.ว่าจะมีการคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่
"เป็นการทำหน้าที่ของภาคประชาชนเพื่อพิสูจน์และเป็นบรรทัดฐานในอนาคตว่าสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 สามารถทำได้จริงหรือไม่ หรือจะถูกกลั่นแกล้งเมื่อรัฐต้องการขัดขวางการชุมนุม เพราะหากภาครัฐอ้างจินตนาการส่วนตัวในการเป็นข้ออ้างในการกลั่นแกล้งประชาชน ก็จะสามารถทำได้ตลอดกาล เท่ากับว่าประชาชนไม่ได้มีสิทธิในการชุมนุมตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญจริง" นายปานเทพ กล่าว
การประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เป็นการเลือกปฏิบัติเฉพาะกลุ่ม ต้องการมาบังคับใช้กับกันพันธมิตรฯเท่านั้น จากการออกหมายเรียกหรือการเปิดช่องทางการจราจรเข้ามาในพื้นที่การชุมนุม แต่กลับปล่อยให้มีรถสัญจรไปมาได้ ทั้งที่ประกาศเป็นพื้นที่ความมั่นคงที่ห้ามไม่ให้มีการเข้าออก นายปานเทพ กล่าวต่อถึงกรณีความพยายามขอคืนพื้นที่เพิ่มเพื่อเปิดช่องทางทางจราจรของรัฐบาลว่า รัฐบาลต้องการมากกว่านี้จนถึงขั้นสลายการชุมนุม เพราะจากการสังเกตุจะเห็นว่าถนน 2 เลนที่ยึดคืนไปแล้วนานๆจะมีรถผ่านมาสัก 1 คัน ดังนั้นที่อ้างว่าการยึดถนน 2 เลนสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนและกระเทือนความมั่นคงของรัฐ จึงไม่ใช่เรื่องจริง รัฐบลเพียงต้องการเอาชนะคะคานกับภาคประชาชน ทั้งที่ปัญหาคือการยึดคืนพื้นที่จากกัมพูชามาให้ได้
อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าตำรวจจะเร่งดำเนินการยึดคืนพื้นที่การชุมนุมมากขึ้นก่อนที่ศาลจะมีคำตัดสินในวันที่ 4 มี.ค.นี้
"ตนได้ทราบข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ที่ระบุว่า ภาครัฐมีการใช้งบประมาณเพื่อควบคุมการชุมนุมของภาคประชาชน ตั้งแต่วันที่ 9-20 ก.พ.ที่ผ่านมา รวม 12 วัน เป็นจำนวน 94 ล้านบาท เฉลี่ยวันละ 8 ล้านบาท มากกว่าค่าใช้จ่ายในการชุมนุมของพันธมิตรฯมาก โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่ใช้ไป 91 ล้านบาท ถือว่าสูงมาก การใช้จ่ายงบประมาณโดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงและความเหมาะสม เป็นความสุ่มเสี่ยงจะทำให้เกิดการสร้างสถานการณ์ขึ้นได้ รัฐบาลต้องตรวจสอบอย่างเคร่งครัดว่ามีรายละเอียดค่าใช้จ่ายอย่างไร และต้องเปิดเผยต่อสาธารณะด้วย" นายปานเทพ กล่าว
ด้านพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ในการชุมนุมพันธมิตรฯได้ใช้งบประมาณจากเงินบริจาคของประชาชน แต่รัฐบาลใช้ภาษีของคนทั้งประเทศ เพื่อมาจัดการกลั่นแกล้งประชาชนโดยเฉพาะ 94 ล้านบาทจึงเสียเปล่า แทนที่นำไปใช้ในเรื่องที่จำเป็น หรือเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตน โดยที่ตั๊กแตนก็ไม่ได้ ช้างก็เหนื่อยเปล่า
"สุดแท้แต่รัฐบาลจะหาทางมากลั่นแกล้งประชาชนอย่างไร ตำรวจก็ต้องพิจารณาทำตามหน้าที่ โดยที่เราไม่ได้วิตกกังวล เนื่องจากเราไม่มีทางเลือกจึงต้องชุมนุมอยู่เช่นนี้" พล.ต.จำลอง กล่าว