นายุสเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ชี้รัฐบาลตัดสินใจยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ไม่ได้เป็นผลจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้ชัดเจนแล้วว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ภายในกลางปีนี้
"รัฐบาลพิจารณาเรื่องจะยุบสภามาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่เกี่ยวกับเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯได้ประกาศชัดเจนแล้วว่าภายในครึ่งปีนี้ และผมก็เรียนแล้วว่าขณะนี้นับถอยหลังได้แล้ว และไม่ได้พูดเฉยๆ พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำให้เห็นแล้ว ผมเตรียมจัดงานระดมทุน เตรียมคนลงสมัครรับเลือกตั้ง ติดป้ายโฆษณาแล้ว แสดงความชัดเจน เราต้องการให้เข้าสู่บรรยากาศของการเลือกตั้งที่รออยู่วันนี้คือให้คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีเวลาเตรียมตัว และฝ่ายสีเสื้อต่างๆ ทีมกีฬาสีทั้งหลายกลับเข้าโรงเรียนกันได้หรือไม่ เพื่อกลับเข้าไปสู่ระบบ" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ระบุว่าพร้อมจัดการเลือกตั้งตลอดเวลานั้นเป็นการพูดที่เร็วเกินไป เพราะรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมยังไม่ได้ประกาศใช้เลย กกต.จะไปพูดเร็วขนาดนั้นได้อย่างไร
ส่วนกรณีที่นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เห็นว่าควรจะยุบสภาประมาณเดือน ต.ค.-พ.ย.เพื่อให้การทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 และการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเสร็จเรียบร้อยก่อนนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องช่วงเวลายุบสภานั้นไม่มีใครเห็นตรงกันเลย ในฐานะที่เป็น ส.ส.ติดต่อกันมา 30 กว่าปียอมรับว่าไม่มี ส.ส.คนไหนที่อยากให้ยุบสภา เพราะเวลาจะได้เป็น ส.ส.มันยาก เดินหาเสียงเลือกตั้งจนรองเท้าสึก ไหว้กันมือเมื่อย และกลางวันกลางคืนทุกข์ยากลำบาก ผู้แทนราษฎรกว่าจะได้รับคะแนนเมตตาไว้วางใจจากพี่น้องประชานทำยาก เมื่อเข้ามาเป็น ส.ส.อยู่ในสภา เขาก็พยายามทำหน้าที่ของเขา และว่ากันตามจริงสภาฯไม่ได้ก่อนเหตุวุ่นวายอะไรเลย ไม่ได้เป็นปัญหาของสภาเลย ส.ส.เหล่านั้นไม่ใช่ต้นเหตุ แต่ต้นเหตุที่มีการเรียกร้องให้ยุบสภาฯ มาจากฝ่ายอื่นทั้งสิ้น แต่ทุกคนก็เข้าใจว่าอะไรก็ได้เพื่อที่จะให้บ้านเมืองตั้งต้นกันใหม่ก็ยินดี แต่ถามว่าเต็มใจหรือไม่ก็ไม่เต็มใจ อยากจะอยู่นาน
"ผมยังยืนยันว่าการยุบสภาจะมีขึ้นก่อนเดือนมิถุนายน ท่านนายกฯยืนยัน ผมเป็นรองนายกฯก็ยืนยันตามนายกฯทุกอย่าง" นายสุเทพ กล่าว
ส่วนกรณีที่ข่าวจะเลื่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจจากเดิม 9-12 มี.ค.ไปเป็น 15-18 มี.ค.นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเองได้สอบถามไปผู้ประสานงานว่าจะอภิปรายเมื่อไหร่แน่ เพราะตนเองก็มีชื่อจะถูกอภิปรายเช่นกัน ซึ่งความจริงผู้ที่ถูกอภิปรายทุกคนก็เตรียมตัวอยู่แล้ว แต่ถ้าได้รู้วันที่แน่นอนจะได้หลีกภารกิจอื่น แต่ว่าได้รับคำอธิบายจากประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)ว่า เอกสารการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจฉบับสมบูรณ์ยังไม่ถึงตัวประธานสภาผู้แทนราษฎรเลย ยังมีการเซ็นชื่อผู้เสนอญัตติที่ไม่ถูกต้องอยู่ 1-2 ชื่อ และเอกสารยังไม่ครบถ้วนอยู่ 3-4 หน้า คิดว่าช่วงเช้าวันนี้เอกสารอาจจะถึงมือประธานสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว
"ไม่ขัดข้องหรอกครับ จะวันไหนก็ได้ เร็วๆก็ดี เพราะว่าทุกฝ่ายก็ลุ้นกันอยู่ ผู้อภิปรายก็เต้นฟุตเวิร์คมานานแล้ว ชกลมมาหลายวันแล้ว มันก็จะได้เอามาพูดกัน พี่น้องประชาชนก็รอฟังอยู่ แต่ถ้าจะเลื่อนออกไปก็ไม่เป็นไร แต่ละคนก็ไปฟิตซ้อมมาให้แข็งแรงอีก" นายสุเทพ กล่าว
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยุ่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีความเห็นเรื่องระยะเวลาในการอภิปราญ ต่างกับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าทีมอภิปรายนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า "ร.ต.อ.เฉลิม กับนายมิ่งขวัญเป็นมวยคนละสไตล์ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นมวยไฟท์เตอร์บุกเข้าไปแลกหมัดได้เสียก็สะใจคนดูอีกแบบหนึ่ง สไตล์คุณมิ่งขวัญค่อยๆ ชกไป นวดเรื่อยๆ คนดูก็ฟังไปบ้างหลับไปบ้าง ก็สนุกสนานไปอีกแบบหนึ่ง ผมก็ชอบทั้งสองสไตล์มาได้เลย" นายสุเทพ กล่าว
และการที่ ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาเตือนทีมอภิปรายว่าไม่ควรอภิปรายตนเองเพราะเป็นพวกเก๋าเกมทางการเมืองนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เวลา ร.ต.อ.เฉลิมพูด ตนเองก็ต้องระมัดระวัง ไม่รู้ว่าชมหรือด่า ฟังดูเหมือนชมว่าสุเทพมันเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ สามารถพูดให้แก้วกลมเป็นแก้วแบนได้ อย่างนี้ไม่ใช่ชมตนเอง และตนเองไม่ได้เป็นคนแบบนั้นที่จะพูดกลมให้เป็นแบน พูดแบนให้เป็นกลม ไม่ใช่ตนเองแน่นอน