ศาลแพ่งมีคำสั่งให้ยกคำร้องทั้งคดีที่แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฟ้องเพิกถอนการออกประกาศตาม พ.ร.บ.มั่นคง และคดีที่แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ฟ้องให้การออกประกาศตาม พ.ร.บ.มั่นคง เป็นโมฆะ เนื่องจากเห็นว่ายังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะให้ออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราว
"กรณีดังกล่าวยังไม่มีเหตุชัดแจ้งให้นำกระบวนการคุ้มครองชั่วคราวมาใช้ จึงให้ยกคำร้อง" คำสั่งศาล ระบุ
โดยวันนี้ศาลได้นัดฟังคำสั่งทั้งสองคดีหลังไต่สวนฉุกเฉินเสร็จเรียบร้อยไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเป็นคดีที่นายประพันธ์ คูณมี กรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดิน และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี, คณะรัฐมนตรี(ยกฟ้องแล้ว) และ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เป็นจำเลยที่ 1-3 เรื่องละเมิดกรณีออกประกาศและข้อกำหนดตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 โดยขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนประกาศและข้อกำหนดทุกฉบับ และขอให้ไต่สวนฉุกเฉินเพื่อระงับการดำเนินการใดๆ ตาม พ.ร.บ.มั่นคง ซึ่งได้มีการประกาศต่ออายุจนถึงวันที่ 23 มี.ค.นี้
และอีกคดีนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยและสมาชิกเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ, พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย และนายทศพล แก้วทิมา กรรมการเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ผู้ถูกออกหมายเรียกลำดับที่ 10 ข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2550 ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร.เป็นจำเลยที่ 1-2 เช่นเดียวกันเรื่องละเมิด โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้ประกาศทุกฉบับที่ออกตาม พ.ร.บ.มั่นคง เป็นโมฆะ
ด้านนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า เมื่อศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ขั้นตอนต่อไปเตรียมนำเรื่องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้วินิจฉัยว่าการออกประกาศทั้ง 6 ฉบับตาม พ.ร.บ.มั่นคง ของรัฐบาลชอบด้วยกฏหมายหรือไม่