รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันนี้มีประเด็นที่ต้องพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน หลังสารพัดม็อบนัดรวมตัวชุมนุมปิดถนนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และปัญหาความเดือดร้อนในการทำมาหากิน ไม่ว่าจะเป็น ชาวนา ชาวไร่อ้อย หรือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล
โดยจะมีการเสนอผลประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) ที่ให้ปรับเพิ่มราคาประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น และปรับปริมาณรับประกันเพิ่มขึ้น ซึ่งเกษตรกรยังไม่พอใจเนื่องจากไม่เป็นไปตามข้อเรียกร้อง
ขณะที่สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี จะนำข้อเสนอของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(ขปส.) ให้ ครม.พิจารณา ได้แก่ การทดลองเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลเป็นเวลา 5 ปี เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศลำน้ำมูลและทรัพยากรทางน้ำ และให้มีคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อศึกษาการฟื้นตัวของระบบนิเวศ, การยกเลิกมติ ครม.12 มิ.ย.50 และมติ ครม.17 ก.ค.50 ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเปิด-ปิดประตูเขื่อนปากมูล รวมทั้งมติ ครม. คำสั่ง หรือประกาศอื่นใดที่ขัดแย้งกับข้อเสนอของ ขปส. และการเยียวยาตามหลักมนุษยธรรมให้แก่ผู้มีอาชีพประมงที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนปากมูลรายละ 310,000 บาท
กระทรวงสาธารณสุข เสนอขออนุมัติงบประมาณโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าปี 2555 วงเงินงบประมาณ 1.67 แสนล้านบาท ครอบคลุมประชากร 48 ล้านคน เฉลี่ยเหมาจ่ายรายหัวละ 3,249 บาท แบ่งเป็น งบประมาณด้านกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 1.66 แสนล้านบาท และงบบริหารจัดการ 1.65 พันล้านบาท
อีกเรื่องเป็นการเสนอร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคเครื่องสำอาง โดยกำหนดให้การโฆษณาต้องไม่ใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค และมีการกำหนดบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนด้วย
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา เสนอร่าง พ.ร.ฎ.การปรับบัญชีเงินเดือนค่าจ้าง และค่าตอบแทนรายเดือนของบุคลากรภาครัฐ รวม 9 ฉบับ และบัญชีค่าตอบแทนของกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.54 เป็นต้นไป ยกเว้นร่าง พ.ร.ฎ.เงินเดือนของสมาชิกวุฒิสภา ที่เป็นการตรวจสอบความถูกต้องหลังจาก ครม.รับหลักการมาก่อนหน้านี้
กระทรวงไอซีที เสนอขอขยายระยะเวลาการเจรจาผลประโยชน์จากการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาร่วมการงาน ให้ถูกต้องตามแนวทางปฏิบัติของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 กรณีการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ระหว่าง บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท โทรคมนาคม กับบริษัทเอกชนคู่สัญญา ออกไปอีก 15 วัน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เสนอการกำหนดโควตาและวงเงินงบประมาณในการเลื่อนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตำรวจ
กระทรวงศึกษาธิการ เสนอแผนความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ระยะที่ 9(2553-2557)
กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอขอกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการสำนักงานธนานุเคราะห์จำนวน 1 พันล้านบาท โดยกระทรวงการคลังไม่ต้องค้ำประกัน เพื่อนำไปใช้ในกิจการและกำหนดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำใหม่ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมมิให้เกิดการขาดสภาพคล่องด้านการเงิน
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณกว่า 3,800 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเตรียมจัดการเลือกตั้งทั่วไป