นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ในวันนี้ตนและนายเทพมนตรี ลิมปพยอม กรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย จะเป็นตัวแทนของพันธมิตรฯ ไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ดำเนินคดีอาญาต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119-120, 126, 128, 129 และมาตรา 157 ประกอบกับรัฐธรรมนูญมตรา 29, 63 และ 70-71 โดยมีเนื้อหาสาระเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือ 7 คนไทยที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมในแผ่นดินไทย
พร้อมกับยื่นเอกสารข้อมูล 14 รายการ ที่เป็นการพิสูจน์ว่า 7 คนไทยถูกจับในแผ่นดินไทย เช่น ที่มาของสระน้ำยูเอ็น ที่มีข้อมูลจากทั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทหาร ผู้รับเหมา และเจ้าหน้าที่กาชาดสากล รวมไปถึงรายงานของทางต่างประเทศ และวีดิโอคลิปสารคดี ที่เกี่ยวกับค่ายอพยพที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว
และหลังจากนี้จะเริ่มทยอยดำเนินการอีกหลายคดี โดยแยกแต่ละพื้นที่ที่มีข้อมูลต่างกัน เช่น พื้นที่เขาพระวิหาร ภูมะเขือ วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม เป็นต้น
นายปานเทพ กล่าวว่า ตนได้รับข้อมูลล่าสุดมาว่า ขณะนี้มีการปล่อยปละละเลยให้กัมพูชามายึดครองพื้นที่ เนื่องจากมีนายทหารบางคนมีผลประโยชน์กับทางกัมพูชา จนกระทั่งไม่ทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน ซึ่งนอกจากผลประโยชน์ต่อกันแล้ว ยังมีสายสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้นำกัมพูชาอีกด้วย
"สะท้อนให้เห็นว่าไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ธรรมดา แต่เป็นเพราะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด เป็นการทำงานที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน โดยมีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาเกี่ยวข้องด้วย การกระทำเช่นนี้ต้องให้ผู้บัญชาการทหารบก และแม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจสอบอย่างเร่งด่วน" นายปานเทพ กล่าว
นายปานเทพ ยังได้กล่าวถึงกรณีของนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ยังถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำในกัมพูชาว่า รัฐบาลพยายามปัดความรับผิดชอบ โยน 2 ทางเลือกให้แก่ครอบครัว คือการอุทธรณ์ หรือขออภัยโทษ โดยที่ไม่พูดถึงแนวทางที่รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือ คือ ข้อตกลงไทย-กัมพูชา ที่นายอภิสิทธิ์ระบุไว้เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.53 ว่า ไม่ว่ากรณีใดก็ไม่สามารถนำ 7 คนไทยขึ้นสู่ศาลกัมพูชา อีกทั้งยังไม่พูดถึงการใช้มาตรการต่อรองจากทั้งการเจรจา มาตรการด้านเศรษฐกิจ และแสนยานุภาพทางการทหาร ที่สามารถทำให้ปล่อยตัว 2 คนไทยอย่างไม่มีเงื่อนไข และไร้มลทิน
ด้านพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า การเข้ายื่นคำร้องต่อป.ป.ช.เป็นไปตามผลกาประชุมของคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย เพราะเห็นว่าเวลาผ่านมานานแล้ว เหตุการณ์ก็บานปลายขึ้นทุกที จึงจำเป็นที่จะต้องใช้กระบวนการยุติธรรมเข้ามาจัดการในเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดผลที่เด่นชัดในการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง ออกมาทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน