นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและคณะทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาของแพง วันนี้คนที่เดือดร้อนที่สุดคือผู้ใช้แรงงาน คนที่หาเช้ากินค่ำ และวันนี้รัฐบาลกำลังทำร้ายคนชั้นกลางโดยผลักภาระให้แบกรับภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมันซ้ำเติมภาวะข้าวยากหมากแพง เป็นการทำลายกำลังซื้อของคนชั้นกลางที่มีสูงถึงร้อยละ 50 ของคนทั้งประเทศ ในที่สุดจะกระทบภาคการผลิตและอาจจะถึงกับทำให้เศรษฐกิจพังได้
"จากการศึกษาโครงสร้างราคาน้ำมันในขณะนี้ พบว่า ส่วนต่างที่รัฐบาลรีดจากประชาชนสูงสุดถึงลิตรละ 18.50 บาท ทำให้ราคาน้ำมันเบนซิน 95 วันนี้ราคาขายปลีกอยู่ที่ลิตรละ 46.94 บาท หากมองจากราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นบวกค่าการตลาด พบว่ามีราคาอยู่ที่ 28.41 บาท/ลิตร ขณะที่เบนซิน 91 ส่วนต่างที่รีดเข้ารัฐอยู่ที่ 17.40 บาท หรือ แม้แต่แก๊สโซฮอลล์ 95 ที่มีผู้ใช้มากที่สุด เงินที่เข้ารัฐสูงถึงลิตรละ 12 บาท"นายคณวัฒน์ กล่าว
จากปัญหาดังกล่าวสะท้อนว่าเศรษฐกิจไม่ดีจริงตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง แต่ยังเต็มไปด้วยปัญหาที่รัฐบาลหมกเม็ดไว้จากการบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาด ทำให้เข้าสู่ภาวะของแพงกำลังส่งผลกระทบเป็นวงกว้างซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวมากว่าที่ประมาณการณ์ไว้
เมื่อเปรียบเทียบสมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ซึ่งราคาน้ำมันเบนซินในตลาดโลกสูงกว่าราคาในปัจจุบัน ถือว่ารัฐบาลชุดนี้ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงเพราะขึ้นภาษีน้ำมันและเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันสูงถึงปีละ 70,000 ล้านบาท โดยผลักภาระให้ประชาชนแต่ไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำมันแพงได้ สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มียุทธศาสตร์และแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง
ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงขอเสนอให้รัฐบาลลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันลงโดยเฉลี่ยลิตรละ 2-3 บาทมาในระดับเท่าเดิม