นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ลั่นยังไม่ได้เสียสติจึงจะยอมไปลงสัตยาบรรณกับพรรคเพื่อไทยตามคำท้าทายของแกนนำฯ ที่ออกมาระบุว่าหากพรรคใดชนะการเลือกตั้งครั้งหน้าก็มีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากมีหลักการที่ชัดเจนอยู่แล้วหากพรรคการเมืองใดได้เกิน 250 เสียงก็เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้เลย แต่หากไม่ถึงครึ่งหนึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าใครจะสามารถรวบรวมเสียงได้มากกว่ากัน
"ผมไม่ไปทำอะไรที่เสียสติร่วมกับเขา ไม่งั้นผมก็ต้องนั่งพิจารณาทุกวัน" นายสุเทพ กล่าว
เลขาธิการพรรค ปชป.ยอมรับว่า หากพรรคการเมืองใดจะส่งผู้สมัครเต็มจำนวน 500 คน ทั้งระบบแบ่งเขต 375 คน และระบบสัดส่วนอีก 125 คนนั้น ต้องใช้เงินอย่างน้อย 650 ล้านบาท ดังนั้นพรรคการเมืองต่างๆ จึงจำเป็นต้องจัดงานเพื่อระดมทุนจำนวนดังกล่าว
ส่วนกรณีที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลออกมาแสดงความเห็นคัดค้านนายกรัฐมนตรีที่จะประกาศยุบสภาภายในสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค.นี้ นายสุเทพ กล่าวว่า อยากให้ทุกพรรคการเมืองให้ความร่วมมือ หากต้องการให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น โดยการจัดทำกฎหมายลูกน่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือน เม.ย.นี้
นอกจากนี้กรณีที่แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) และพรรคภูมิใจไทย(ภท.) จะนัดกินข้าวร่วมกันนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า น่าจะเป็นพูดคุยเพื่อเตรียมการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงมากกว่าเรื่องการลงมติญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่พรรคการเมืองขนาดกลางจำเป็นต้องปรึกษาหารือกันหรือวางแนวทางการทำงานการเมืองร่วมกัน ซึ่งที่ผ่านมาตนเองก็ได้เดินสายพูดคุยกับแนวนำพรรคร่วมรัฐบาลมาโดยตลอด