นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงปัญหาราคาข้าว ว่า รัฐบาลนี้แก้ปัญหาราคาข้าวด้วยโครงการประกันรายได้เกษตรกรดีกว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดก่อนที่มีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์เป็น รมว.พาณิชย์ ที่บริหารข้าวจนทำให้กลไกตลาดบิดเบือน
"มั่นใจว่าแนวทางการประกันรายได้เกษตรกรเป็นแนวทางที่ช่วยเหลือเกษตรกรได้ครอบคลุมทั่วถึงและเป็นธรรมมากกว่า และบิดเบือนกลไกตลาดน้อยกว่านโยบายรับจำนำของรัฐบาลก่อน"
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้าวจากการรับจำนำในสมัยท่าน เป็นตัวที่บิดเบือนกลไกตลาดอย่างแท้จริง เพราะไปซื้อมาราคาสูงเก็บไว้ในสต็อกจนข้าวเสื่อมสภา พ่อค้าทั่วโลกรู้ว่ารัฐบาลไทยมีข้าวในสต็อกเยอะ ไม่มีความจำเป็นต้องแย่งซื้อและทำให้ราคาข้าวขยับขึ้น เพราะสต็อกทับอยู่ รู้ว่ายังไงๆวันนึงก็ต้องขายออกมา หากเก็บไว้ก็จะเสื่อมและหายไปเฉยๆ ขายก็ขายยากรัฐบาลเข้ามา ตอนซื้อไปซื้อไว้แพงๆ พอจะขายก็ลังเลว่าจะขายแล้วขาดทุน จะถูกต่อว่า จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือเปล่า แต่การประกันรายได้ทุกคนขึ้นทะเบียน ปลูกข้าว น้ำท่วม ภัยแล้ง แมลงศัตรูพืช ได้รับการชดเชย ถ้าราคาตลาดต่ำกว่าราคาประกัน
ส่วนที่ปี 2551 ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ เป็นเพราะทั่วโลกเกิดวิกฤติภัยพิบัติต่างๆ ทำให้ผลผลิตทั่วโลกลดลงมาก ที่สำคัญคือภาวะขาดแคลนอาหารเข้าสู่วิกฤติถึงขั้นหลายประเทศมีมาตรการห้ามส่งออกข้าว เพื่อรักษาความมั่นคงทางอาหารเอาไว้ ทำให้นานาประเทศหันมาซื้อข้าวจากไทยก็เลยทำให้เป็นปีทองของราคาข้าว
"ถ้าท่านคิดว่าปี 2551 ราคาข้าวที่นี่ดีเพราะฝีมือท่าน แปลว่าฝีมือท่านทำให้ราคาข้าวทั่วโลกเลยหรือครับที่สูงขึ้น"นายกฯ กล่าว