นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่ามีนายตำรวจระดับสูงนายหนึ่งเสนอต่อนายกรัฐมนตรีถึงการจัดการกับผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ โดยมาตรการที่เด็ดขาดคือ การประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งตนทราบมาว่านายกฯ จะมีการพิจารณาในวันพรุ่งนี้(18 มี.ค.) เพื่อหวังใช้สำหรับเพิ่มโทษทางอาญาแก่ผู้ชุมนุม แกนนำหรือผู้ปราศรัย และที่สำคัญเจ้าหน้าที่สามารถใช้กำลังจับกุมได้ทันที
ทั้งนี้ ตนมีความเป็นห่วงเนื่องจากการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะต้องมีการอ้างเหตุที่มีระดับสูงกว่า พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แต่ขณะนี้ยังไม่มีเหตุอันสมควร จึงเกรงว่าจะมีขบวนการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความเชื่อว่าสถานการณ์เข้าสู่การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้นรัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะวันนี้รัฐบาลได้สั่งการให้เปิดพื้นที่จราจรเข้ามาในพื้นที่การชุมนุม โดยไม่มีการตรวจสอบอาวุธหรือความปลอดภัย
โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวด้วยว่า ในวันนี้จะไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) และพวกที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ในกรณีที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่พบเหตุการณ์ความไม่มั่นคงในการประกาศใช้กฎหมายที่เกินกว่าเหตุนี้ เป็นเพียงการออกประกาศกฎหมายเพื่อป้องกันความมั่นคงของรัฐบาล ไม่ใช่ความมั่นคงของรัฐ
นอกจากนี้ ยังเป็นการใช้กฎหมายเพื่อกลั่นแกล้งประชาชนที่มาชุมนุมโดยสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ที่ไม่ผ่านมติคณะฐมนตรี ไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งขัดกับมาตรา 18 ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ อีกทั้งการประกาศพื้นที่ความมั่นคงที่เลือกปฏิบัติ เพราะบังคับใช้เฉพาะกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ซึ่งขัดต่อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ตั้งมาตรา 6, 26-29, 34, 45, 63, 70-71 และมาตรา 87(2-4) รวมทั้งขัดมาตรา 3 และ 7(4) ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ อีกด้วย
และที่สำคัญการออกหมายเรียก 10 แกนนำพันธมิตรฯ ก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากผู้ที่ออกหมายเรียกไม่ได้มีหน้าที่ตามมาตรา 5(7) ที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ
"จะขอให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีความอาญากับนายกฯ และพวกทั้งหมดที่กระทำการลุแก่อำนาจ ทำเกินกว่าเหตุ และใช้กฎหมายละเมิดสิทธิ ขัดขวางการทำหน้าที่ของภาคประชาชนที่ออกมาปกป้องอธิปไตยของชาติโดยสุจริต" นายปานเทพ กล่าว