โพลเผยชาวบ้านผิดหวังอภิปรายฯไม่คุ้มค่า มีแต่ข้อมูลเก่าขาดความชัดเจน

ข่าวการเมือง Friday March 18, 2011 16:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนที่มีต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ดำเนินมาถึงวันสุดท้ายว่า เสียงส่วนใหญ่ 61.29% มองว่าไม่คุ้มค่าในการติดตาม เนื่องจากข้อมูลที่ทั้ง 2 ฝ่ายนำมาอภิปรายเป็นเรื่องเก่า ไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักหรือชัดเจนมากพอ ,มุ่งแต่เอาชนะคะคานกันเหมือนเดิม ฯลฯ

ส่วนอีก 38.71% มองว่าคุ้มค่า เพราะได้รับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆมากขึ้น ได้รับรู้ถึงความก้าวหน้าและผลงานของรัฐบาล ,ได้เห็นประสิทธิภาพและความสามารถในการอภิปรายของทั้ง 2 ฝ่าย ฯลฯ

ขณะที่ประเด็น“ความสมหวัง"หรือ“ผิดหวัง"จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น 78.91% บอกว่าผิดหวัง เนื่องจากบรรยากาศในการอภิปรายยังเหมือนเดิม มีแต่ทะเลาะกัน การใช้วาจา กริยาที่ไม่สุภาพ ,พาดพิงถึงบุคคลภายนอก ฯลฯ และ 21.09% ระบุว่า สมหวัง เพราะได้รับรู้ประเด็นที่น่าสนใจ ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลมีการเตรียมข้อมูลมาอภิปรายอย่างเต็มที่ ฯลฯ

จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เรื่องที่ประชาชน“สมหวัง"อันดับ 1 คือได้รับรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และชัดเจนมากขึ้น 38.90% อันดับ 2 ได้เห็นบุคคลสำคัญของแต่ละฝ่ายขึ้นมาอภิปรายและชี้แจงในเรื่องต่างๆ 32.38% และอันดับ 3 ไม่เกิดเหตุการณ์ประท้วงจนทำให้เกิดสภาล่ม 28.72%

เรื่องที่ประชาชน“ผิดหวัง"อันดับ 1 คือ เนื้อหาที่นำมาอภิปรายเป็นเรื่องเก่า ที่นำมาพูดซ้ำๆ /ไม่มีข้อมูลแปลกใหม่ 35.61%อันดับ 2 ต่างฝ่ายต่างใช้อารมณ์ ต้องการที่จะเอาชนะกันมากกว่าคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน 34.20% และอันดับ 3 การใช้คำพูดที่ไม่สุภาพ การแสดงกริยามารยาทที่ไม่เหมาะสม 30.19%

สำหรับสิ่งที่ประชาชน “ประทับใจ" จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ อันดับ 1 การชี้แจงประเด็นที่ถูกอภิปรายของนายกฯ อภิสิทธิ์ 43.09% อันดับ 2 ข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาพูดโดยเฉพาะข้อมูลของจตุพร พรหมพันธุ์ 29.67% อันดับ 3 การควบคุมการอภิปรายของประธานในที่ประชุม 27.24%

สิ่งที่ประชาชน “เบื่อหน่าย" จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ อันดับ 1 การใช้คำพูดที่ไม่สุภาพ ถ้อยคำหยาบคาย /การใช้อารมณ์ 40.08% อันดับ 2 ประเด็นที่นำมาอภิปรายส่วนใหญ่เป็นเรื่องเดิมๆ 33.89% อันดับ 3 การถาม —ตอบ ไม่ตรงประเด็น ของทั้ง 2 ฝ่าย 26.03%

จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เสียงส่วนใหญ่ 54.14% ระบุว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความนิยมของ “พรรคประชาธิปัตย์"เพราะชื่นชอบนายกฯอภิสิทธิ์และชื่นชอบพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว ,การอภิปรายเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมี ฯลฯ ส่วนอีก 25.56% บอกว่านิยมพรรคประชาธิปัตย์ลดลง เพราะได้เห็นการทำงานที่บกพร่องของรัฐบาล รัฐมนตรีบางคนตอบข้อคำถามได้ไม่ชัดเจน ไม่มีน้ำหนักมากพอ ฯลฯ ขณะที่ 20.30% นิยมพรรคประชาธิปัตย์เพิ่มมากขึ้น เพราะรัฐมนตรีที่ถูกพาดพิงส่วนใหญ่สามารถชี้แจงประเด็นต่างๆได้ ควบคุมอารมณ์ได้ดี ฯลฯ

ด้านผลกระทบต่อความนิยมของ “พรรคเพื่อไทย" นั้น 46.62% บอกว่านิยมพรรคเพื่อไทยลดลง เพราะการอภิปรายยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ขาดการควบคุมอารมณ์ ผู้อภิปรายบางคนไม่น่าสนใจ ฯลฯ และ 42.10% นิยมพรรคเพื่อไทยเท่าเดิม 42.10% เพราะชื่นชอบพรรคเพื่อไทย เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะต้องมีการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ฯลฯ ส่วน 11.28% นิยมพรรคเพื่อไทย เพิ่มมากขึ้น เพราะมีการเตรียมข้อมูลมาดีกว่าที่ผ่านมา สามารถชี้ให้เห็นข้อบกพร่องในการทำงานของรัฐบาลได้ ,ฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้ดีแล้ว ฯลฯ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ