พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีการพิจารณาบันทึกการประชุมคณะกรรมธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) 3 ฉบับ ของที่ประชุมร่วมรัฐสภาที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 มี.ค.นี้ว่า จากที่คณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทยได้ทำหนังสือถึงสมาชิกรัฐสภา ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.เพื่อคัดค้านและเตือนไม่ให้พิจาณารับรองบันทึกเจบีซีทั้ง 3 ฉบับ เพราะหากให้ความเห็นชอบจะทำให้ประเทศต้องเสียดินแดน และผู้ที่สนับสนุนเห็นชอบจะมีความผิดทางอาญาไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงผลเสียหายที่เกิดขึ้น ทางคณะกรรมการฯได้ขออนุญาตนำบทความ "จุดยืนที่เหนือกว่า"ของนายสมปอง สุจริตกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ มาทำสำเนาเพื่อยื่นให้กับ ส.ส.และ ส.ว.ทุกคนอีกครั้งหนึ่ง โดยจะไปยื่นผ่านสำนักเลขาธิการรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค.)
"เป็นการเตือนครั้งที่ 2 ต่อสมาชิกรัฐสภา และหากวันที่ 29 มี.ค. มี ส.ส.และ ส.ว.คนไหนให้การรับรองบันทึกการประชุมเจบีซีทั้ง 3 ฉบับ จะถูกเราดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด" พล.ต.จำลอง กล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวด้วยว่า อาจารย์สมปอง ถือเป็นเป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องข้อพิพาทไทย-กัมพูชาดีที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย โดยในบทความดังกล่าวได้มีการระบุถึงเงื่อนงำที่จะนำมาซึ่งผลเสียหายร้ายแรงหากรัฐสภาพิจารณาผ่านบันทึกการประชุมเจบีซีทั้ง 3 ฉบับ อีกทั้งยังมีการตอกย้ำว่าการปักปันเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาได้ทำเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ.1905-1907 แต่ในบันทึกเจบีซีกลับระบุให้มีการปักปันเขตแดนใหม่ ซึ่งเท่ากับการที่ทำให้ประเทศต้องเสียดินแดนเพิ่มเติม ตลอดแนวชายแดน 798 กิโลเมตร 7 จังหวัด ตั้งแต่อุบลราชธานี — ตราด ที่จะเสียอีกเฉลี่ยจังหวัดละ 2 แสนไร่ ด้าน นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่อาจารย์สมปอง ออกมาแสดงความคิดเห็นนั้น เป็นสิ่งที่สมาชิกรัฐสภาต้องให้ความสำคัญ เพราะนายสมปอง เป็นหนึ่งในทีมนักกฎหมายที่ร่วมต่อสู้คดีปราสาทเขาพระวิหารเมื่อปี 2505 จึงเป็นผู้ที่เข้าใจในข้อเท็จจริงมาโดยตลอดว่าประเทศไทยมีหลักกฎหมาย ข้อโต้แย้งเพื่อแสดงถึงจุดยืนในข้อพิพาทนี้ และจากบทความนี้แสดงให้เห็นว่าการพิจารณาบันทึกเจบีซีของรัฐสภาในครั้งนี้ ถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่จะยืนยันว่าประเทศไทยเสียดินแดน ไม่เพียงปราสาทพระวิหารหรือบริเวณโดยรอบ แต่ยืนยันว่าเสียดินแดนตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา กว่า 800 กม.ดังนั้น ส.ส. ส.ว. และรัฐบาลต้องรับฟังความคิดเห็นนี้
นายประพันธ์ กล่าวว่า ร่างเจบีซี 3 ฉบับนี้ได้มีการระบุให้มีการปักปันเขตแดนใหม่ตั้งแต่หลักเขตแดนที่ 23 — 51 รวมทั้งจุดที่มีสันปันน้ำเป็นเส้นเขตแดนด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้เท่ากับรัฐสภาไปให้การรับรองการปักปันเขตแดนใหม่ทั้งหมด สละสิทธิของไทยเองที่มีการปักปันเขตแดนแล้วเสร็จตั้งแต่สยามกับฝรั่งเศส และถือเป็นการรับรองโดยรัฐสภาไทยเป็นครั้งแรก เป็นการสูญเสียดินแดนอย่างเป็นทางการ ทั้งที่การพิจารณาร่างบันทึกเจบีซีนั้นไม่ผ่านกระบวนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 กำหนดไว้ ไม่มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนหรือประชาพิจารณ์ให้เห็นถึงผลดีผลเสียก่อนที่รัฐสภาจะพิจารณา
"วันนี้การต่อสู้มาถึงจุดที่ประชาชนต้องตัดสินใจแล้ว เพราะเป็นจุดที่ประชาชนไม่สามารถถอยได้ หากรัฐบาลเดินหน้าแบบนี้ ที่จะนำไปสู่การสูญเสียแผ่นดินตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งภาคประชาชนต้องหามาตรการทุกวิถีทางที่จะหยุดยั้งการกระทำของรัฐบาลที่ทำให้เสียดินแดน" นายประพันธ์ กล่าว