นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะเชิญองค์กรระหว่างประเทศ เข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งในไทยว่า รู้สึกแปลกใจที่กลุ่ม นปช.ไม่เคารพในอธิปไตยของประเทศตัวเอง แต่กลับนับถือชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นเรื่องไม่สมควร
วานนี้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หนึ่งในแกนนำ นปช. ระบุว่าจะเชิญองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนมาร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ส.ส.ที่กำลังจะมีขึ้น โดยจะเริ่มตั้งแต่ช่วงการหาเสียงเลือกตั้งไปจนถึงวันลงคะแนน
นายสุเทพ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากลไกของ กกต.จะทำงานได้ดี หากประชาชนต้องการการตรวจสอบก็สามารถระดมคนในประเทศ เช่น สื่อและนักวิชาการ เข้ามาทำหน้าที่ได้
ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะเปิดทีวีท้องถิ่น เพื่อให้ความรู้กับประชาชนในช่วงเลือกตั้งในภาคอีสาน เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องติดตามตรวจสอบว่าผิดกฎหมายหรือไม่ อีกทั้งการวิเคราะห์ว่าการเลือกตั้งเป็นการแข่งขันกับอำนาจนอกระบบ เห็นว่าควรเดินหน้าสู่การเลือกตั้งที่สร้างสรรค์ ให้ประชาชนเกิดความศรัทธา ไม่ใช่สร้างประเด็นใหม่ และพยายามแบ่งชั้นวรรณะ เพราะไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน
รวมถึงการกล่าวถึงเงื่อนไขการปฏิวัติ และแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 ก็ควรวิจารณ์ให้อยู่ในกรอบ เพราะขณะนี้ขอให้ทุกฝ่ายเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งเพื่อเริ่มต้นใหม่
รองนายกรัฐมนตรี ยังเชื่อว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะไม่ลาออก เพราะเชื่อในความรับผิดชอบต่อหน้าที่และประเทศชาติ ส่วนท่าทีของนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ระบุว่าต้องรอให้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาก่อนจึงจะมั่นใจได้ว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริงนั้นเป็นหลักการที่ถูกต้อง ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งจะทอดเวลาออกไปอีก เพราะนายกรัฐมนตรี ยืนยันจะยุบสภาในสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคมอย่างแน่นอน และเชื่อว่ากฎหมายลูกทั้ง 3 ฉบับจะประกาศใช้ได้ทันภายในเดือนเมษายน เพราะเป็นเจตนารมณ์ของคนทั้งประเทศ