นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า ในการประชุม ส.ส.ของพรรคฯ ได้มีหลายคนยังสอบถามถึงการประกาศรายชื่อผู้ที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วย โดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคฯ ได้ชี้แจงว่า มติของคณะกรรมการบริหารพรรคและคณะยุทธศาสตร์ของพรรคนั้นได้ตกลงกันไว้ว่า จะประกาศรายชื่อผู้ที่มีความเหมาะสม ซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณ 5 คนเพื่อให้ที่ประชุมเลือก หลังจากที่นายกรัฐมนตรีประกาศวันยุบสภาแล้ว 2 วัน ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ถูกสาดโคลน เตะตัดขา และทำลายคะแนนเสียง
"หากการพิจารณากฎหมายลูก 3 ฉบับนั้นมีการพิจารณาเสร็จสิ้นโดยเร็ว ก็อาจจะมีการยุบสภาในวันที่ 27 เมษายนก็ได้ ซึ่งหากเป็นแบบนั้นพรรคก็พร้อมจัดประชุมใหญ่เพื่อประกาศรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ทันทีในวันที่ 29 เมษายน" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารพรรคได้หยิบยกกรณีที่นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล ส.ส.แพร่ โหวตสวนทางกับมติพรรคฯ ในการลงคะแนนไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมารายงานให้กับที่ประชุมฯ ทราบ โดยแม้นายนิยมจะมีเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ในการโหวต แต่เมื่อมีข้อบังคับพรรคคอยบังคับอยู่ก็ควรที่จะต้องปฏิบัติตาม ดังนั้นที่ประชุมฯ จะส่งเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการจริยธรรมของพรรคพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริงก็อาจจะไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในสมัยหน้า
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารพรรคฯ ยังได้แจ้งต่อที่ประชุมฯ ว่า ขณะนี้ได้จัดทำนโยบายพรรคเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีนโยบายหลักถึง 14 เรื่อง ทั้งนี้คาดว่าในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้จะสามารถเปิดนโยบายหลักทั้ง 14 เรื่องได้ เพื่อป้องกันการก็อปปี้นโยบายจากคู่แข่งด้วย โดยจะครอบคลุมเรื่องต่างๆ อาทิ ราคาข้าว ค่าแรงขั้นต่ำ นโยบายลดภาษี ลดภาระประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กองทุนเถ้าแก่น้อย ระบบจัดการน้ำทั้งในกรณีน้ำท่วมและน้ำแล้งที่จะเป็นการแก้ปัญหาอย่างครบวงจร นโยบายเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพที่เป็นการเรียนฟรีจริงๆ ระบบโลจิสติกส์ที่เป็นการพัฒนาระบบคมนาคมของไทย และครัวไทยสู่ครัวโลก ตลอดจนสานต่อนโยบายที่ประสบความสำเร็จมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนอีกด้วย เช่น โครงการเอสเอ็มอี เอสเอ็มแอล กองทุนหมู่บ้าน โอท็อป และ 30 บาทรักษาทุกโรค โดยมีนายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวหลักในการดำเนินการขับเคลื่อนนโยบาย
โฆษกพรรคฯ กล่าวว่า บรรดา ส.ส.ได้แจ้งต่อที่ประชุมฯ ถึงความพร้อมในการเตรียมการเลือกตั้ง โดยขอให้พรรคระดมขุนพลของพรรคเพื่อลงพื้นที่หาเสียงก่อนที่จะมีการยุบสภาเพื่อเป็นการโหมโรง ซึ่งคาดว่า แกนนำพรรคจะเริ่มลงพื้นที่เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ ส.ส.ได้หลังเทศกาลสงกรานต์ผ่านพ้นไปแล้ว
ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้รับทราบด้วยว่า ขณะนี้ในหลายพื้นที่มีการกระทำที่ส่อว่าอาจจะเป็นการเตรียมการเพื่อทุจริตการเลือกตั้งล่วงหน้า ดังนั้นจึงได้กำชับให้ ส.ส.เตรียมทีมไว้คอยสอดส่องและรับมือด้วย และยังได้กำชับให้ ส.ส.เร่งทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ขณะนี้สามารถดำเนินการทำบัตรสมาร์ทการ์ดได้แล้ว เพราะหากยังมีประชาชนที่ยังใช้บัตรเหลืองอยู่อาจจะถูกนำไปใช้เพื่อทุจริตในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นได้ เนื่องจากขณะนี้มารครองเมือง