นพ.บุรณัชย์ สมุทรรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ในการจัดสรรเวลาชี้แจงนโยบายพรรคการเมืองของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระหว่างวันที่ 20-23 เมษายนนี้ พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมประกาศรายละเอียดของนโยบายใหม่ โดยใช้ชื่อว่า “เดินหน้าต่อไปเพื่อประชาชน" เพื่อให้ประชาชนเปรียบเทียบว่านโยบายใครสามารถทำได้จริงและแก้ปัญหาในระยะยาว เพราะล่าสุดนโยบายเครดิตการ์ดชาวนาของพรรคเพื่อไทย เห็นว่าเป็นการสร้างวงจรหนี้สินเพิ่มขึ้น ซึ่งผิดกับนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ที่มุ่งเน้นลดรายจ่ายสร้างรายได้
"นโยบายพรรคเพื่อไทย เปรียบว่าเป็นนโยบายทักษิณคิด เพื่อไทยทำ อยากให้พิจารณาว่าเป็นนโยบายที่ทำเพื่อคนๆ เดียวหรือไม่ เพราะเชื่อว่าหลังการเลือกตั้งหากเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล สิ่งแรกที่พรรคเพื่อไทยจะทำคือการประกาศนิรโทษกรรมความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะใช้เวลา 1-3 เดือน ทำให้เสียเวลาการบริหารประเทศ และสุ่มเสี่ยงเกิดเหตุวุ่นวายได้ ทำให้สังคมแตกแยกไม่รู้จักจบสิ้น" นพ.บุรณัชย์ กล่าว
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยประกาศว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส. 270 ที่นั่ง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ว่า เป็นโฆษณาชวนเชื่อเพื่อสร้างกระแส เพราะหากพรรคเพื่อไทยไม่ได้ตามที่พูดไว้อาจโยนความผิดว่ามีการใช้อำนาจรัฐโกงการเลือกตั้ง ทั้งนี้จากผลโพลในช่วงที่ผ่านมา หลายสำนักระบุว่า ความนิยมของพรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์สูสีกันมาก แต่พรรคประชาธิปัตย์มีความชัดเจนในเรื่องตัวหัวหน้าพรรค ขณะที่พรรคเพื่อไทยยังหาหัวหน้าพรรคไม่เจอ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์จึงมีความพร้อมไม่เสียเปรียบพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด
นายเทพไท กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ประเมินว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีพรรคใดได้เกิน 200 ที่นั่ง บวกลบไม่เกิน 10 ที่นั่ง โดยดูจากผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2550 แต่พรรคเพื่อไทยหลังจากมีหลายกลุ่มแตกออกมา เช่น กลุ่มนายเนวิน ชิดชอบ เชื่อว่าจะได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ลดลง