นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะหาช่องทางยุบพรรคเพื่อไทย หลังจากที่กองทัพได้แจ้งความดำเนินคดีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และพวกในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่า ต้องแยกเรื่องดังกล่าวออกจากกัน
“ขอยืนยันว่าเรื่องความวุ่นวายที่เกิดขึ้นมีความชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคนสั่งการเรื่องต่างๆ ในการโหมประเด็นข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง สั่งกล่าวหาโจมตีองคมนตรีและนายกรัฐมนตรี และทำเรื่องไม่สมควร ผมได้ติดตามความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณกระทำจริง ส่วนรัฐบาลจะดำเนินการยุบพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ยังไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น พ.ต.ท.ทักษิณไม่ต้องมาตีสองหน้า และผมเห็นด้วยกับแม่ทัพภาคที่ 1 ที่ให้ประณามคนที่จาบจ้วงสถาบันที่สมควรประณามอย่างยิ่ง การหาเสียงมีเรื่องหลายเรื่องสามารถพูดได้อีกมาก ทำไมกล่าวในเรื่องที่ไม่ควร"นายสุเทพกล่าว
ทั้งนี้ กล่าวตำหนิว่าการหาเสียงไม่ควรมากล่าวหาเรื่องกองทัพไปสร้างกระแสว่ากองทัพจะปฏิวัติ ทุกอย่างที่พรรคเพื่อไทยทำมา ทำอย่างมีแผนแยบยล
ส่วนคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จะไม่เป็นเรื่อที่จะทำให้ไม่เกิดการเลือกตั้ง พร้อมยืนยันว่าจะต้องนำไปสู่การเลือกตั้ง ยกเว้นกลุ่มคนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมืองอีก
และกลุ่มบริวาร พ.ต.ท.ทักษิณทำหลายเรื่องพร้อมๆ กัน ทางหนึ่งโหมกระแสว่า จะนำไปสู่การเลือกตั้ง อีกทางหนึ่งจะทำการเผื่อไว้ถ้าเลือกตั้งแพ้ จะต้องทำอย่างไรต่อไป
ส่วนกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย บอกว่าจะไม่มีเลือกตั้ง นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่สามารถประเมินใจนายสมศักดิ์ได้ แต่เชื่อว่ามีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับกรณีที่นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลัง บอกว่าสถานการณ์ทางการเมืองต่อจากนี้ไปอีก 10 ปีก็ยังไม่ดี เป็นเรื่องที่นายประดิษฐ์คิดเอง ซึ่งไม่เห็นด้วย เพราะเชื่อว่าอนาคตหลังการเลือกตั้ง สถานการณ์การเมืองน่าจะดีขึ้น และไม่อยากคาดการณ์ในสิ่งที่ทำให้ประชาชนวิตกกังวล
ส่วนที่มีการคาดการณ์ว่านายไพฑูรย์ แก้วทอง สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ จะวางมือทางการเมือง นายสุเทพ กล่าวว่า นายไพฑูรย์ยังลงเลือกตั้ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์อยู่ และเชื่อมั่นว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเปิดตัว จะเป็นตัวแทนของประชาชน ทำงานให้ประชาชน ซึ่งขณะนี้การจัดทำบัญชีรายชื่อของพรรคแล้วเสร็จกว่าร้อยละ 80-90