นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) จะเสนอต่ออายุ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเพิ่มอีก 30 วันว่า เป็นสิ่งที่จำเป็น ทั้งนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถนำกฎหมายฉบับนี้มาใช้ควบคุมสถานการณ์ได้ ส่วนจะลากยาวไปจนถึงการเลือกตั้งใหม่หรือไม่นั้นคงต้องรอดูสถานการณ์ก่อน แต่ยืนยันว่าการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้มาก แม้จะมีกฎหมายควบคุมการชุมนุมอยู่ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตำรวจจะปล่อยปละละเลย
"ตำรวจไม่ได้เลี้ยงม็อบ ถ้าจุดธูปบูชาขอให้กลับบ้านได้ คงทำไปแล้ว" นายสุเทพ กล่าว
อนึ่ง พ.ร.บ.มั่นคงฯ ที่บังคับใช้อยู่ใน 7 เขตของกรุงเทพฯ นั้นจะครบกำหนดในวันที่ 24 เม.ย.นี้
ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังปักหลักโดยไร้การเคลื่อนไหวใดๆ จะต้องลดกำลังเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปดูแลความเรียบร้อยหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเป็นหน้าที่ของ ผบ.ตร. และศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) จะเป็นผู้ประเมินว่าจะมีการถอนกำลังบางส่วนหรือไม่
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดว่า ภายใน 1-2 วันนี้ จะเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) และหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อจัดกำลังเพิ่มเติมให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในด้านการติดตามป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามที่นายกรัฐมนตรีระบุไว้ ทั้งนี้ได้หารือกับ ผบ.ตร.ไว้ว่าเจ้าหน้าที่ที่จะดูแลเรื่องยาเสพติดนั้นจะให้ปฏิบัติหน้าที่นี้อย่างต่อเนื่อง และแม้จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ส่วนนี้ก็จะยังคงปฏิบัติงานอยู่
สำหรับแผนปฏิบัติการด้านยาเสพติดในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จะยังให้ทุกหน่วยงานเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ และคงต้องเน้นเรื่องยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน โดยเฉพาะรั้วสังคม, ชุมชน และโรงเรียน พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะจัดการปัญหายาเสพติดโดยยึดหลักนิติรัฐในการแก้ปัญหาเป็นหลัก
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า วันที่ 23 เม.ย.นี้ จะมีการจัดงานเลี้ยงระดมทุนที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อนำทุนที่ได้ไปจัดสร้างบ้านทั้งหลังให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี สำหรับบ้านที่จะต้องสร้างใหม่ทั้งหลังคาดว่าจะใช้งบประมาณราว 240,000 บาท/หลัง โดยเบื้องต้นคาดว่าต้องสร้างบ้านใหม่ราว 300 หลัง และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน