วันนี้ ( 23 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ปะทะเดือดรอบ 2 ระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ตลอดแนวชายแดนไทย - กัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก เรื่อยไปจนถึง ช่องกร่าง บ้านหนองตาเลิฟ ต.บักได และ ปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00 น. เป็นต้นมานั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น.ทหารทั้ง 2 ฝ่าย ยังระดมอาวุธหนัก-เบา ทั้ง ปืน อาร์ก้า เอเค 47 ,ปืนเอ็ม 16 , ปืน กล ปืน คอ ชนิดต่างๆ ยิงต่อสู้กันอย่างดุเดือดและต่อเนื่อง เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวตลอดแนวชายแดน ด้านนี้เป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร (กม.)
นอกจากนั้น ทหารไทย ยังระดมยิงปืนใหญ่ ขนาดต่างๆ เข้าใส่ทหารกัมพูชา ที่ได้เสริมกำลัง พร้อมอาวุธหนักเข้ายังชายแดนไทยบริเวณปราสาทตาควาย และฐานที่มั่น ที่บริเวณบ้านทมอโดน และบ้านปราสาทตาเมือนธมใหม่ ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของหน่วยทหารเขมรในฝั่งชายแดนประเทศกัมพูชาอย่างหนัก ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านี้ ทหารไทยได้ระดมการยิงกระสุนปืนใหญ่เข้าใส่ที่ตั้งกำลังทหารเขมรหนักหน่วงรุนแรงและต่อเนื่อง สลับกับการระดมยิงในพื้นที่แนวปะทะ ทำให้เสียงปืนดังกึกก้องไม่หยุดตลอดครึ่งวันที่ผ่านมา
ขณะที่ฝ่ายทหารกัมพูชา ได้ระดมยิงปืนตอบโต้ทหารไทย อย่างหนักเช่นกัน กระสุนปืนทหารกัมพูชาเข้าตกลงใกล้บริเวณปราสาทตาควาย และ ปราสาทตาเมือนธม เป็นจำนวนมาก
ผลจากการปะทะกันอย่างดุเดือดดังกล่าว ทำให้ทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 7 นาย สาหัส 1 นาย โดยได้รับบาดเจ็บที่จุดปะทะ บริเวณปราสาทตาเมือนธม จำนวน 2 คือ อาสาสมัครทหารพราน (ทพ.) สุพจน์ ทรงเนียนศรี ทหารพราน สังกัดกองร้อย ที่ 2607 และ ทพ. ฤทธิชัย เจียมรัมย์ ทหารพราน สังกัดกองร้อยที่ 2607 ชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี(กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2)