นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้ รมว.ต่างประเทศ ของอินโดนีเซีย ในฐานะประธานอาเซียนจะยังไม่พร้อมที่จะเดินทางมาพบกับนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ตามกำหนดที่นัดไว้ในเย็นวันนี้นั้น แต่นายกษิต มีกำหนดจะเดินทางไปพบกับประธานอาเซียนในวันที่ 28 เม.ย.นี้
พร้อมย้ำว่าไทยพยายามจะทำให้เหตุการณ์ต่างๆ คลี่คลาย และไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่จำเป็นต้องปกป้องอธิปไตย ซึ่งไทยจะพยายามชี้แจงข้อเท็จจริงให้ปรากฎ เพื่อประเทศต่างๆ จะได้สื่อไปถึงกัมพูชาว่าควรหยุดการเคลื่อนไหวได้แล้ว ทั้งนี้ จากรายงานข่าวพบว่ามีความพยายามของฝ่ายกัมพูชาที่จะเข้ามายึดพื้นที่บริเวณปราสาทตาควายและปราสาทตาเมือนธม ซึ่งทางกองทัพของไทยยืนยันว่ามีความพร้อมในการปกป้องอธิปไตยตลอดบริเวณแนวชายแดน ไม่ใช่เฉพาะจุดที่มีปัญหาหาในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาเท่านั้น
ส่วนที่มีรายงานว่ากัมพูชานำปืนใหญ่ขึ้นไปไว้บนปราสาทพระวิหารนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยได้จับตาและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยให้กองทัพเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และขอย้ำว่าปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา ยังอยู่ในวิสัยที่จะพูดคุยกันในระดับทวิภาคี โดยไม่จำเป็นต้องให้ประเทศที่ 3 เข้ามาเป็นตัวกลาง เพียงแต่เป็นความพยายามของกัมพูชาที่มีเป้าหมายจะยกระดับปัญหาดังกล่าวขึ้นเป็นสู่เวทีนานาชาติ
"เราพยายามทำความเข้าใจกับทุกประเทศว่าหากยอมรับแนวทางเหล่านี้ ต่อไปจะเกิดปัญหาวุ่นวายไม่จบ โดยใครอยากให้เรื่องไปอยู่ในเวทีสากล ก็จะมีการสร้างเรื่องขึ้นมา ดังนั้นไม่ควรยอมรับในส่วนนี้ เพราะจริง ๆ แล้วยังอยู่ในวิสัยที่ 2 ฝ่ายคุยกันได้อยู่แล้ว" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 7-8 พ.ค.นี้ จะได้มีโอกาสพบกับสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งจะมีการหารือกันถึงปัญหาการปะทะกันที่เกิดขึ้น และย้ำว่าไม่จำเป็นต้องให้ประเทศที่ 3 เข้ามาแทรกแซง เพราะเกรงว่าจะยิ่งทำให้ปัญหายุ่งยากมากขึ้น