นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “เยาวชนกับการพัฒนาประชาธิปไตย" ว่า เหตุผลที่สินใจยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ ได้ประเมินและคิดว่าเป็นโอกาสที่จะทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า เพราะทราบดีว่าความขัดแย้งในสังคมยังมีอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อเลือกตั้งแล้วทุกอย่างจะสงบเรียบร้อย แต่ถือว่ารัฐบาลทำงานมาระยะหนึ่ง คลี่คลายสถานการณ์ทั้งเศรษฐกิจ และการเมืองได้เกือบเป็นปกติ แม้ไม่ได้ดีทั้งหมด แต่หากปล่อยให้เป็นไปตามวาระของสภา จะทำให้หลายปัญหาไม่สามารถแก้ได้ เพราะเสียงของประชาชนเริ่มถูกกลบโดยกลุ่มคนจำนวนไม่มาก เช่นนักการเมือง หรือคนที่เคลื่อนไหวทางการเมือง
“ที่จริงถ้าอยู่เฉยๆ ปลายปีก็มีเลือกตั้ง คนที่ไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง ก็มี 2 ประเภท คือไม่พอใจพรรคการเมือง นักการเมือง เพราะเห็นว่าเลือกใหม่ ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น แต่คำถามที่คนเหล่านี้ตอบไม่ได้ คือถ้าไม่ไปสู่กระบวนการเลือกตั้งจะทำอย่างไร ไม่ยุบสภาตอนนี้ สภาหมดวาระแล้วไม่มีการเลือกตั้งจะทำอย่างไร ซึ่งไม่มีคำตอบ และการบอกว่าเราควรเว้นวรรคพักกัน และหาใครมาแทน อยากถามว่าจะหาจากไหน หรืออะไรคือความชอบธรรม และทำไมคิดว่าถ้าไม่มีเลือกตั้ง คนเหล่านี้จะให้คำตอบเหล่านี้ได้ ซึ่งผมประเมินแล้ว คิดว่าตัดสินใจวันนี้ดีกว่า" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอให้เยาวชนมีความตื่นตัวเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต และมีส่วนร่วมในการรณรงค์ ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง คนที่ควรได้รับความไว้วางใจ และช่วยสอดส่องดูแลให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม